รองผบช.น. เตรียมเรียก อัจฉริยะ สอบปากคำ 26 ก.ย. คลี่ปมวิ่งเต้นคดีช่วยเอมี่พ้นข้อหาค้ายา

อัจฉริยะ – กรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. หลังรับร้องเรียนจากพลเมืองดีว่าคดียาเสพติด ซึ่งมีนายปุณยวัจน์ หิรัณย์เตชะ และ น.ส.อาเมเรีย จาคอป หรือเอมี่ อดีตมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006 นางเอกธิดาวานร ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายฝ่ายร่วมกันทุจริตในการช่วยเหลือให้ น.ส.อาเมเรีย หลุดพ้นคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดในชั้นศาล

ต่อมานายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมนางสาวอาเมเรีย จาคอป หรือเอมี่ นักแสดง นำเอกสารหลักฐานที่ใช้ในการต่อสู้คดีจำนวน 710 แผ่นมามอบให้ฝ่ายร้องทุกข์บช.น. โดยมีพล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. เดินทางมารับฟังข้อมูลดังกล่าว หลังพล.ต.ท.ชาญเทพ แต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ก.ย. ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. ฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมด้วย พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รองผบก.น.2 พ.ต.อ.ทนงศิลป์ มณีโชติ ผกก.สน.สายไหม พ.ต.อ.ชัยชนะ บุญรอด รองผกก.(สอบสวน) สน.สายไหม พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี สว.(สอบสวน) สน.บางเขน เป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีความบกพร่องของพนักงานสอบสวนสน.สายไหม ทำให้น.ส.อาเมเรีย หลุดพ้นคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดในชั้นศาล โดยใช้เวลาการประชุม 1 ชั่วโมงครึ่ง จึงแล้วเสร็จ

พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. ประชุมตรวจสอบข้อเท็จจริง

พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. ประชุมตรวจสอบข้อเท็จจริง

พล.ต.ต.สมพงษ์ เปิดเผยหลังการประชุมว่า พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เร่งรัดตรวจสอบกรณีดังกล่าวภายหลังจากที่มีประชาชนสนใจเป็นจำนวนมาก จึงเรียกประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยนัดหมายทางนายอัจฉริยะ มาสอบปากคำในวันที่ 26 ก.ย. ช่วงเวลา 13.00 น. ซึ่งในส่วนประเด็นที่นายอัจฉริยะไม่สบายใจในประเด็นการขอเปลี่ยนตัวคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สายไหมนั้น กรณีผกก.สน.สายไหม มารับตำแหน่งเมื่อเดือนมี.ค.2561 แต่สำนวนดังกล่าวเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่เดือนธ.ค.2560 ทางผกก.สน.สายไหม เป็นคนดีตั้งใจทำงาน แต่เพื่อความสบายใจจะเปลี่ยนตัวคณะกรรมการดังกล่าวให้

ส่วนที่ทราบจากทางโฆษกอัยการสูงสุดว่าทางอธิบดีอัยการยาเสพติดสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยตนจะขอเข้าพบอธิบดีอัยการยาเสพติดเพื่อหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ทั้งนี้ต้องสอบปากคำนายอัจฉริยะก่อน เนื่องจากประเด็นที่นายอัจฉริยะร้องมาอย่างเป็นทางการยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าว

เมื่อถามว่าข้อมูลที่นายอัจฉริยะให้เพิ่มเติมว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ศาลาแดง มาดูคดีเพิ่มเติมด้วยนั้น พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า ตนเห็นเรื่องผ่านทางสื่อแต่ในส่วนของเอกสารหรือคำให้การของนายอัจฉริยะยังไม่ได้ เพราะฉะนั้นเวลาการทำงานในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเราทำงานตามพยานหลักฐาน เราจะไม่ตอบโต้ทางสื่อหรือทางโทรศัพท์ ต้องทำตรงไปตรงมา เขามีหลักฐานอะไรเราก็สอบเขามีหลักฐานอะไรก็นำมาพิจารณาเมื่อเราได้มาก็นำไปตรวจสอบ ถ้าพบว่ามีใครที่เกี่ยวข้องและมีการกระทำผิดกฎหมายอาญาจะต้องดำเนินการทั้งหมด

เมื่อถามถึงกรณีที่นายอัจฉริยะนำหลักฐานมาเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมานั้นเป็นหลักฐานอะไร พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า ในวันดังกล่าวทางนายอัจฉริยะมาพบทางผบช.น. แต่ก็คงเป็นการพูดคุย ตนยังไม่แน่ใจประเด็นดังกล่าว แต่ในส่วนของตนฐานะคณะกรรมการได้มีการพูดคุยสอบถามมาแล้วยังไม่ได้อะไรที่เป็นทางการ จึงต้องขออนุญาตสอบปากคำและขอเอกสารหรือหลักฐานต่างๆ ที่เป็นทางการก่อน เพื่อให้สามารถตรวจสอบที่มาที่ไปในการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว

“ส่วนจะต้องสอบสวนในประเด็นไหนอย่างกรณีของตำรวจและพลเรือนที่เกี่ยวข้อง ต้องรอผลสรุปจากการสอบปากคำนายอัจฉริยะก่อนจึงสามารถระบุได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนสอบปากคำนายอัจฉริยะได้สั่งการให้คณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงสอบปากคำเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพร้อมทั้งพนักงานสอบสวนที่ดำเนินคดี กรณีที่ทางนายอัจฉริยะกล่าวถึงพนักงานสอบสวนไม่ได้ขึ้นเบิกความนั้น ทางพนักงานสอบสวนท่านนั้นเป็นพนักงานสอบสวนคู่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนตัวหลักได้ขึ้นเบิกความในชั้นศาล มีพนักงานสอบสวนขึ้นเบิกความ 1 นาย และชุดจับกุมขึ้นเบิกความ 2 นาย

พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางดำเนินการ

พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางดำเนินการ

แต่กรณีดังกล่าวเป็นการพิจารณาตามดุลยพินิจของทางอัยการถ้าเห็นว่าพยานเป็นพยานคู่ทำหน้าที่คล้ายกันและเบิกความไปก็เพื่อความรวดเร็ว ก็ถือเป็นดุลยพินิจของทางอัยการที่จะตัดออกไปได้ ไม่มีในกรณีที่มีหมายเรียกมาแล้วตำรวจไม่ขึ้นยืนยันว่าตำรวจไป” รองผบช.น. กล่าว

เมื่อถามถึงการตรวจสอบเงินในการวิ่งเต้นคดีดังกล่าวที่มีมูลค่าหลายบาทนั้น พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวให้ทางนายอัจฉริยะนำหลักฐานและก็เข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ก่อน ยืนยันว่าไม่ต้องห่วงทางคณะกรรมการทำงานอย่างตรงไปตรงมาให้ความสำคัญทุกฝ่าย ต่อข้อซักถามว่าจะมีการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินครอบครัวของทางเอมี่หรือไม่ ต้องรอผลการสอบปากคำนายอัจฉริยะก่อน อะไรที่เกี่ยวข้องเป็นประโยชน์กับการตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด

เมื่อถามว่าการพูดคุยกับทนายษิทราอ้างถึงทนายคนก่อนหน้านี้เอาข้อมูลไปบอกนายอัจฉริยะนั้น พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวทางทนายษิทรามายืนเอกสารโดยมีฝ่ายร้องทุกข์เป็นผู้รับเรื่อง เพียงแต่ตนไปสอบถามความต้องการของเขาทราบว่าเขามาขอยื่นเอกสาร โดยเอกสารดังกล่าวเป็นการขอคัดสำเนาคำพิพากษาซึ่งเป็นเอกสารทางราชการ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการขอคัดเอกสารดังกล่าวด้วย ส่วนมีความจำเป็นต้องเรียกทนายคนก่อนมาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นใคร อาทิเช่น ทนาย เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเป็นตัวบุคคลอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ถ้ามีข้อมูลบางประการที่เกี่ยวข้อง กฎหมายให้อำนาจหน้าที่เรียกเขามาได้เราจะทำเพื่อทำให้ความจริงกระจ่าง ซึ่งการสอบปากคำจะต้องสอบผู้ร้องก่อนซึ่งเป็นพยานหลักฐานจากผู้ร้องและการสอบปากคำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน