‘บิ๊กโจ๊ก’ แถลงจับ 4 คดีรวด ทั้ง แก๊งโรแมนซ์สแกม ชาวจีน-แคนาดา ลอบเปิดบ่อนออนไลน์ กลางกรุง นายหน้าสาวปลอมเอกสาร ให้ชาวต่างชาติ และฉ้อโกง หลอกขายตั๋วเครื่องบิน

‘บิ๊กโจ๊ก’ / เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ บช.สตม. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท.ผบก.จร. , พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.3 , พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท.ผบก.สส.สตม. , พ.ต.ท.รังสรรค์ สอนสิงห์ รรท.ผกก.สน.ดอนเมือง ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา 4 คดี

‘บิ๊กโจ๊ก’

สอบแก๊งโรแมนซ์สแกรม

คดีแรกจับกุมแก๊งโรแมนซ์สแกม (ROMANCESCAM) ก่อเหตุหลอกลวงหญิงสาวรายหนึ่ง จนสูญเงินไป 42,900 บาท ผู้ต้องหา 2 ราย ประกอบด้วยนายซิโกซี่ โอริซากเว ชาวไนจีเรีย ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2213/2561 ลงวันที่ 26 ก.ย. 2561

ความผิดฐาน“ร่วมกันฉ้อโกงและแสดงตนเป็นบุคคลอื่นฯ”(เป็นผู้สั่งการ,คุยเฟซบุ๊กหลอก) และน.ส.ปราณหทัย เจิมจันทร์ หมายจับศาลอาญาที่ 2212/2561ลงวันที่ 26 กันยายน 2561 ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและแสดงตนเป็นบุคคลอื่นฯ” (นกต่อโทรหลอก,ถอนเงิน)

‘บิ๊กโจ๊ก’

คดีโรแมนซ์สแกรม

พร้อมตรวจยึด สมุดบัญชีธนาคาร บัตรATM โทรศัพท์มือถือ ของผู้ต้องหาทั้งสอง สอบถามผู้ต้องหาและตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์ของกลาง พบข้อมูลของผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อ ทั้งข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ผู้เสียหายอีกหลายราย

เบื้องต้นพบผู้เสียหาย 3 ราย หลงเชื่อถูกหลอกให้โอนเงิน ในพื้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ความเสียหาย 25,000 บาท สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต ความเสียหาย 342,000 บาท และสน.ลาดกระบัง ความเสียหาย 35,000 บาท รวมความเสียหายทั้งสิ้น 444,900 บาท

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์เผย ชุดสืบสวนศปอส.ตร. ได้ทำการจับกุมกลุ่มคนร้ายและผู้เกี่ยวข้องในการกระบวนการหลอกลวงลักษณะนี้หลายครั้ง แต่ยังพบว่ามีประชาชนยัง ถูกหลอกให้หลงเชื่อ จึงแจ้งขอประสานผ่านสื่อมวลชน ขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนรับทราบ เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวงจากอาชญากรลักษณะแบบนี้อีกต่อไป

‘บิ๊กโจ๊ก’

สอบผู้ต้องหา

จับหนุ่มหลอกขายตั๋วเครื่องบินสูญ2ล้าน

คดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหาหลอกลวงขายตั๋วเครื่องบินโดยสารไปต่างประเทศ เมื่อวันที่ 28 ก.ย. โดยจับกุมนายณฐพบ พลศรี หลังใช้แอพพลิเคชั่นไลน์พูดคุย และเสนอตั๋วเครื่องบินโดยสารในราคาถูก ผู้เสียหายหลงเชื่อรวมกลุ่มกันซื้อตั๋วดังกล่าวจำนวนหลายราย หลายเที่ยวบิน

เมื่อถึงวันเดินทางกลับไม่สามารถเดินทางได้ พยายามติดต่อผู้ต้องหาแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ความเสียหาย 2,126,106 บาท จึงเข้าแจ้งความไว้ที่สน.บางเขน ในข้อหา“ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” ต่อมาตำรวจตามจับนายณฐพบ ได้ที่บ้านพักย่านพระรามสอง และพบหลักฐานอุปกรณ์โทรศัพท์ สมุดบัญชีธนาคาร ที่ใช้ในการกระทำความผิดจึงตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

‘บิ๊กโจ๊ก’

คดีหลอกขายตั๋วเครื่องบิน

ค้นตึกรัชดา จับชาวจีน-แคนนาดา เปิดบ่อนออนไลน์

คดีที่ 3 ศปอส.ตร. และ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับการประสานจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เรื่องเครือข่ายไอพีแอดเดรสในการกระทำความผิด ลักลอบเปิดบ่อนแทงพนันออนไลน์ เกิดความเสียหายในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

ต่อมาวันที่ 27 ก.ค. ตำรวจเข้าตรวจค้น ห้องเลขที่ 36/39 และ 36/40 ชั้น 13 อาคารแห่งหนึ่งบน ถ.รัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ผลการตรวจค้นพบ พบบุคคลต่างด้าวรวมจำนวน 59 คน กระทำความผิด ในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันลักลอบเล่นการพนันโดยผิดกฎหมาย

จากการสืบสวนขยายผล พบว่า ห้องที่เกิดเหตุเป็นที่ตั้งบริษัท ซัพวิน ซี เทคโนโลยี จำกัด และ.บริษัท ซูส แอล เทคโนโลยี จำกัด มีการจ้างคนไทยเป็นนอมินี สามารถออกหมายจับกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิด ได้จำนวนทั้งสิ้น 14 ราย เป็นคนไทย 5 ราย จีน 7 รายและแคนาดา 2 ราย โดยบริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจด้านบริการบังหน้า แต่ลักลอบเปิดบ่อนเล่นการพนันออนไลน์ ผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ สามารถจับกุมคนไทย 4 ราย จีน 2 ราย และแคนนาดาอีก 1 ราย

‘บิ๊กโจ๊ก’

คดีเปิดบ่อนออนไลน์

สาวปลอมเอกสารช่วยต่างชาติต่อวีซ่า

ส่วนคดีที่ 4 จับกุมนายหน้าเครือข่ายปลอมเอกสารต่อวีซ่า เป็นผลงานของ บก.ตม.1 ตม.จว.สมุทรปราการ , กก.บคด.บก.ตม.3 และ กก.3 บก.ทท.1 ร่วมกันติดตามและจับกุม น.ส.ยุพิน จันต๊ะคาด อายุ 55 ปี

ข้อหา “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม” ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2253/2561 ลงวันที่ 1 ต.ค. 61 หลังพบว่ามีพฤติกรรม รับเป็นนายหน้าต่อวีซ่าให้กับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะสัญชาติ อินเดีย ปากีสถาน ไนจีเรีย ฯลฯ

โดยจะจัดเตรียมเอกสาร การขออนุญาตขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ให้กับชาวต่างชาติ เพื่อยื่นขออนุญาต ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง พบว่ามีการแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด.1 ให้ชาวไนจีเรีย จำนวน 2 ราย ใช้ขออนุญาตต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเอกสารที่ยื่นมาเป็นของปลอม จึงสืบสวนจนทราบว่าได้มาจากน.ส.ยุพิน

‘บิ๊กโจ๊ก’

คดีปลอมเอกสาร

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่ที่บ้านพัก ซอยด่านสำโรง ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงนำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นและจับกุมได้ พร้อมของกลาง สมุดบัญชีเงินฝาก 11 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 6 ใบ หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย 8 เล่ม สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล 1 ลัง หนังสือเดินทาง 4 เล่ม ตรายางประทับ บริษัทต่างๆ จำนวน 17 อัน สำเนาหนังสือเดินทางและเอกสารอื่นๆอีก 1 ลัง

ทั้งนี้พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ ให้เพิ่มความระมัดระวังในรับเรื่องการขออนุญาต อยู่ในราชอาณาจักรของบุคคลต่างด้าว โดยหากพบการปลอมแปลงเอกสาร หรือใช้เอกสารเท็จในการยื่นขออนุญาต ให้ดำเนินคดีทั้งชาวต่างชาติ และนายหน้าที่จัดทำเอกสารนั้นด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน