ช้ำใจนายจ้าง! 2 หนุ่มตัดสินใจ เดินเท้ากลับโคราช 4 วัน 4 คืน ไร้เงินติดตัว หลังถูกเบี่ยวค่าแรง บังเอิญเจอเพื่อนร่วมชะตากรรม ตัดพ้ออย่าทำนาบนหลังคน มีหัวจิตหัวใจเหมือนกัน

เดินเท้ากลับโคราช วันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้พบกับชายหนุ่ม 2 คนกำลังเข็นรถ 2 ล้อ เดินมาตามถนนสาย 304 (กบินทร์บุรี-ปักธงชัย ) ขาขึ้น บริเวณบ้านหนองคล้า หมู่ 1 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยบนรถมีสัมภาระกระเป๋าเสื้อผ้า, ถังน้ำและของใช้อีก 2-3 รายการ สภาพเหงื่อไหลท่วมกาย เสื้อผ้ามอมแมม ซึ่งกำลังแวะนั่งร่มไม้ข้างทาง

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายโชคชัย แทวกระโทก อายุ 35 ปี บ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่ 569 หมู่ 2 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว แต่ย้ายไปอยู่ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่เดินอยู่บนถนน บอกว่า ได้เดินเท้ามาจากเขตมีนบุรี กทม.รวม 4 วัน 4 คืนแล้วเพื่อกลับบ้าน ก่อนหน้านี้ตนไปทำงานรับจ้างก่อสร้างกับผู้รับเหมาได้ 1 ปี ได้ค่าแรงงวดละไม่กี่พัน บางครั้งก็ไม่ได้เงิน

โดยเถ้าแก่บอกว่าเงินยังไม่ออก จนตัวเองไม่มีข้าวหุง ไม่มีเงิน จึงตัดสินใจออกจากที่ทำงานทันที ด้วยการเดินเท้าตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา น้ำได้อาบบ้าง ไม่ได้อาบบ้าง ไม่มีเงินติดตัวสักบาท เดินเท้าอย่างเดียว เป้าหมายคือทับลาน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเคยมีนายตำรวจแถวนั้นเคยให้ตนทำงานด้วย

ชาวบ้านนำน้ำมาบริจาคให้กับ 2 หนุ่ม หลังเดินเท้ากลับโคราช

ชาวบ้านนำน้ำมาบริจาคให้กับ 2 หนุ่ม หลังเดินเท้ากลับโคราช

และเมื่อเช้าที่ผ่านมา เดินทางมาถึงแยกเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา มีศาลาที่พักผู้โดยสารจึงแวะพักเอาแรง และเห็นมีคนอยู่ในศาลา จึงได้พูดคุยด้วยทราบว่าเป็นคนโคราชด้วยกันชื่อนายกมล แช่มสำโรงอายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 หมู่ 5 ต.สำโรง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา นายกลม บอกว่า ตนก็ถูกนายจ้างเบี้ยวค่าแรงเหมือนกัน ไปทำงานที่ชลบุรี เดินเท้ามาหลายวันแล้ว ไม่รู้จักกันมาก่อน หลังจากคุยกันแล้วเป็นคนบ้านเดียวกัน จึงเดินทางมาด้วยกัน เพื่อที่จะหางานทำงาน อะไรก็ได้ ถ้ามีคนจ้างขอให้เป็นงานสุจริตทำทั้งนั้น

2 หนุ่มถูกนายจ้างเบี้ยวค่าแรง เดินเท้ากลับโคราช

2 หนุ่มถูกนายจ้างเบี้ยวค่าแรง เดินเท้ากลับโคราช








Advertisement

ขณะนั้นผู้สื่อข่าวประสานรถตำรวจทางหลวงจากตู้ยามศรีมหาโพธิ ซึ่งมี ด.ต.สุนเดช ภารกิจ ที่ขับรถผ่านมา เพื่อที่จะขอให้รถกู้ภัยนำส่ง แต่ทั้ง 2 คนกลับบอกว่าขอเดินไปดีกว่า ครั้นจะกลับบ้านตอนนี้อายเขา อยากขอเดินไปอีกวัน 2 วัน ก็คงถึงทับลาน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ค่ำไหนนอนนั่น อีกสักคืน

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์หานางบัวชุม แทวกระโทก ที่นายโชคชัย กล่าวอ้างว่าเป็นแม่ นางบัวชุม กล่าวว่านายโชคชัย เป็นลูกชายตนจริงออกไปรับจ้างทำงานที่ กทม. ได้เกือบปีแล้ว เสียใจที่ลูกชายทำงานไม่ได้เงิน ได้บอกกลับบ้านอย่าไปคิดเอาเรื่องกับเขา เขาไม่ให้ก็ช่างเขากลับมาทำมาหากินที่บ้านดีกว่า

นายโชคชัย กล่าวถึงนายจ้างว่า ขอให้เลิกทำนาบนหลังคนได้แล้ว คนเขามีหัวจิตหัวใจเหมือนกัน ทำงานให้ตนรับเงินมาแล้วไม่ให้บ่ายเบี่ยงมาตลอด หลายคนที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกับตน เขามีลูกมีเมียมีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ ต้องกินต้องใช้ จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ให้เงิน 500 บาท เอาติดตัวไว้ซื้อข้าวกิน กว่าจะได้ทำงานและชาวบ้านให้น้ำดื่มไว้กินตามทางกว่าจะถึงที่หมายปลายทางในวันพรุ่งนี้ (12ต.ค.)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน