ตราดเปิด 28 หมู่บ้าน ก้าวสู่โอทอปนวัตวิถี สร้างรายได้ให้ชุมชน
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่โรงแรมบ้านปู แกรนด์ บอลลูน จ.ตราด นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด มอบหมายให้นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวเปิดงาน “โครงการชุมชนท่องเที่ยว โอทอป นวัตวิถี จังหวัดตราด กิจกรรมส่งเสริมการตลาดชุมชนท่องเที่ยว” โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า โครงการชุมชนท่องเที่ยว โอทอป นวัตวิถี เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ไทยนิยม ยั่งยืน” ที่เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ให้ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ และวางแผนในการพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชนของตนเอง ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านการกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชน ซึ่งโครงการชุมชนท่องเที่ยว โอทอป นวัตวิถีถือเป็นแนวคิดในการพัฒนา โอทอป รูปแบบใหม่ ที่มุ่งเน้นสร้างรายได้ตามความต้องการของชุมชน เพื่อเป้าหมายในการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง และประชาชนสามารถพึ่งตนเองได้อย่างแท้จริง โดยสอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่เน้นสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและสร้างเศรษฐกิจชุมชน
นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า รวมถึงเน้นการดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชนเพื่อให้ชาวบ้านได้ขายสินค้าในชุนชนของตัวเองถือเป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้ชุมชน ประกอบกับการดึงเสน่ห์แห่งภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์มาแปลงเป็นรายได้ ทำให้เกิดการกระจายรายได้ภายในชุมชน ช่วยส่งเสริมการสร้างหมู่บ้านให้เข้มแข็งไม่จำเป็นต้องออกไปหารายได้จากภายนอกชุมชน ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านการพัฒนา โอทอป จากรูปแบบเดิมที่เน้น การผลักดันสินค้าไปขายในตลาดต่างๆ อันจะก่อให้เกิดการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาล จังหวัดตราดพร้อมเป็นต้นแบบในการสร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องประชาชนมีโอกาสสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม และนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
“จุดท่องเที่ยวทั้ง 28 จุดของจังหวัดตราด ล้วนมีเอกลักษณ์และมีสินค้าเฉพาะตัว รวมถึงบรรยากาศของแต่ละชุมชนที่รายล้อมด้วยเกาะธรรมชาติทั้งเกาะช้าง เกาะกูด แหลมงอบ หาดทรายดำ ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และเพื่อเป็นการส่งเสริมตลาดชุมชนและกระตุ้นระบบเศรษฐกิจโดยรวม โอกาสนี้ผมขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวให้การสนับสนุนภูมิปัญญาและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของหมู่บ้านต่างๆ ในจ.ตราด เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างแท้จริง และทำให้เห็นว่าการท่องเที่ยวของเมืองรอง สวยงามไม่แพ้เมืองหลักแต่อย่างใด”นายณัฐพงษ์ กล่าว