‘บิ๊กโจ๊ก’ นำแถลงผลงาน สตม. จับนอมินี 1 จีน 5 คนไทย ใช้ชื่อเปิดบริษัท ขายสินค้าเครื่องนอนยางพารา ย่านห้วยขวาง ตามล่าต่ออีก 2 ราย
จับนอมินี / เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ห้องศูนย์หมายจับคนร้ายข้ามชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) สวนพลู พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รองผบช.สตม. พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท.รองผบช.สตม. พล.ต.ต.สมบัติ ชูชัยยะ ผบก.ประจำสตม. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.3 และชุดศปอส.ตร.
ร่วมกันแถลงผลจับกุม ผู้ต้องหาดำเนินธุรกิจ เปิด บริษัทนอมินี ให้กับคนต่างชาติ จำนวน 6 ราย ประกอบด้วย นายหม่า โป สัญชาติจีน นางภารินี แซ่แต้ นายทวีศักดิ์ หมัดเนาะ น.ส.ภคมน หมัดเนาะ น.ส.สาวิตรี แสงสาตรา และน.ส.เซียว เฉิน ทั้งหมดสัญชาติไทย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการร้องเรียนให้ทำการตรวจสอบ กรณีที่มีบุคคลต่างด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งได้ก่อตั้งบริษัทจำกัดเป็นจำนวนมาก โดยมีการนำคนไทยเข้ามาเป็นหุ้นส่วน เพื่อให้สามารถทำการจัดตั้งบริษัทจำกัดได้ โดยไม่ขัดต่อระเบียบข้อบังคับ
แต่แท้จริงแล้วนั้น คนไทยที่เป็นหุ้นส่วนดังกล่าว กลับมิได้มีส่วนรู้เห็นในการร่วมลงทุน ดูแลบริหาร หรือได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินธุรกิจดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าว อาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนคนไทยและเศรษฐกิจในประเทศ
อีกทั้งเพื่อเป็นการตรวจสอบบุคคลต่างด้าว ที่เข้ามาพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ชุดปฏิบัติการที่ 14 และ 19 เข้าตรวจสอบในกรณีดังกล่าว
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ต่อมาตำรวจศปอส.ตร. ได้ตรวจสอบ บริษัท รอยัล สลีพ อินเตอร์นั่นแนล จำกัด ตั้งอยู่ที่ 134/3 ถ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ซึ่งดำเนินธุรกิจจำหน่ายเครื่องนอนยางพารา
จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ได้ติดต่อว่าจ้างคนไทยให้มาร่วมจดทะเบียนและถือหุ้นแทนในการจัดตั้งบริษัท เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับ แต่แท้จริงแล้วนั้น กรรมการบริษัทผู้ถือหุ้นที่เป็นคนไทย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นในการบริหารจัดการ และไม่ได้รับผลประโยชน์หรือกำไรที่มาจากการประกอบธุรกิจดังกล่าว
ทั้งเงินทุนในการเปิดกิจการ ก็เป็นของกรรมการบริษัทที่เป็นคนจีนทั้งสิ้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำในลักษณะ “นอมินี” โดยถือหุ้นแทนให้กับบุคคลต่างด้าว อันเป็นความผิดตาม มาตรา 36 พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท – 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จึงรวบรวมหลักฐาน ขอหมายจับศาลอาญา จับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จำนวน 8 ราย จับกุมได้แล้ว 6 ราย ส่วนอีก 2 ราย คือนายธารวิทย์ บินซาเล และนางตุ๊กตา เอี่ยมใส อยู่ระหว่างติดตามตัว
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “เป็นคนต่างด้าว ยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทย ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือร่วมกันประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าวหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียว
หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในบริษัทจำกัด เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจ โดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.การประกบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542” กับนายหม่า โป สัญชาติจีน
ส่วนนางภารินี แซ่แต้ นายทวีศักดิ์ หมัดเนาะ น.ส.ภคมน หมัดเนาะ น.ส.สาวิตรี แสงสาตรา และน.ส.เซียว เฉิน ทั้งหมดสัญชาติไทย แจ้งข้อหา “เป็นผู้มีสัญชาติไทยให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือร่วมกันประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว
หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในบริษัทจำกัด เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจ โดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542”
จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้จะเร่งรัดติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 ราย มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด