พี่สาว ร้อง บช.น. ขอความเป็นธรรม หลังน้องชาย ตายเปลือย ในโรงงานห้องเย็น เผยปมสงสัยเพียบ พบบาดแผล 19 แห่ง ผกก.สน.หนองจอก บอกเรื่องการตายไม่ตรงกับพนักงานสอบสวน เชื่อน้องถูกซ้อม-ทำร้ายร่างกายก่อนสิ้นใจ

ตายเปลือย / เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) น.ส.ฮาบิบ๊ะ เด็นมานิ พี่สาวของหนุ่มโรงงานที่เสียชีวิตปริศนา พร้อมทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. หลังคดีของน้อยชายที่เสียชีวิตเปลือยกายภายในโรงงานทำห้องเย็น ย่านหนองจอก เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา พื้นที่ สน.หนองจอก แต่ไม่มีความคืบหน้า โดยทางเจ้าของโรงงานอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ผลชันสูตรตามร่างกายพบมีร่องรอยบาดแผล 19 แห่ง โดยญาติเชื่อว่าเป็นการถูกซ้อมทำร้ายร่างกายก่อนเสียชีวิต

น.ส.ฮาบิบ๊ะ กล่าวว่า สิ่งที่ยังติดใจสงสัยว่าทำไมสภาพศพของน้องชายที่มีบาดแผลค่อนข้างเยอะ สะโพกผิดรูป เบ้าตาบวม ลิ้นจุกปาก เสื้อผ้าหายไป ของติดตัวหายไป และอยากรู้สาเหตุของการเสียชีวิตว่าเกิดจากสาเหตุใด ส่วนทำไมถึงไม่เชื่อว่าน้องชายไม่ได้เสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุนั้น เนื่องจากดูจากบาดแผลแล้ว เป็นไปไม่ได้ว่าเกิดจากอุบัติเหตุ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ระบุว่าเกิดจากอุบัติเหตุอย่างไร

น.ส.ฮาบิบ๊ะ กล่าวต่อว่า ส่วนทางเจ้าของโรงงานได้ติดต่อไปครั้งแรก จากนั้นมาได้ติดต่อภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ให้ญาติดูแต่อย่างใด ซึ่งขณะก่อนเกิดเหตุ 1 วัน น้องชายโทรศัพท์มาบอกว่าจะเดินทางกลับบ้าน โดยอยู่ที่กรุงเทพฯดีและไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกับใครแต่อย่างใด และบอกเพียงแค่ว่า “คิดถึงยายอยากจะกลับบ้าน”

“เราแค่อยากรู้ความจริงว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากสาเหตุใด ส่วนตำรวจให้ความร่วมมือหรือไม่นั้น ลักษณะเหมือนไม่ค่อยสนใจ โทรไปก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกให้รอ แต่ส่วนใหญ่ฝ่ายเราเป็นคนโทรไปหาเขามากกว่า เดินทางมาจาก จ.ยะลา บอกจะสรุปคดีวันจันทร์นี้ พอไม่ได้โทรไปเขาก็ไม่โทรมาถาม พอเดินทางมาคำตอบก็อยู่เหมือนเดิมบอกว่ายังไม่เสร็จ ยังไม่ได้สรุป” น.ส.ฮาบิบ๊ะ กล่าว

พี่สาวของผู้ตาย กล่าวอีกว่า ตั้งแต่น้องชายเสียตนเดินทางขึ้นมา 3 ครั้งแล้ว ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะมีคนทำร้ายน้องเรา ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจ น้องมาทำงานมา 8 เดือน เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดกับใคร เข้ากับคนง่าย แต่ยอมรับว่าเคยมียุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งทางตำรวจบอกเพียงแค่ว่าในภาพวงจรปิดเห็นน้องแก้ผ้าเดินไปเดินมา ขณะที่ไปกับเพื่อนได้ยินตำรวจว่าน้องชอบปีนต้นไม้แก้ผ้า แต่จากผลการชันสูตรพบว่าเมาเหล้า แต่ก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดีซึ่งก็คุยกันอยู่ดีๆ ก่อนที่น้องจะเสียชีวิต

ด้าน นายรณรงค์ กล่าวว่า อยากให้ทาง บช.น. ช่วยเร่งรัดคดีให้กระจ่าง โดยเฉพาะเรื่องที่ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สน.หนองจอก บอกกับญาติว่าผู้ตายตกต้นไม้ตาย แต่บริเวณที่พบศพไม่มีต้นไม้อยู่ ถามว่ามีใครเคลื่อนย้ายศพหรือไม่ แต่ทางด้านพนักงานสอบสวนบอกว่า หกล้มเสียชีวิต ทำไมตำรวจโรงพักเดียวกันพูดไม่ตรงกัน ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นคดีที่ซับซ้อน

นายณรงค์ กล่าวต่อว่า ซึ่งเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนสอบถามไปทางพนักงานสอบสวนก็บอกว่าคลิปวงจรปิดอยู่ระหว่างส่งไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐานว่ามีการตัดต่อหรือไม่ หากมีวงจรปิดว่าเขาหกล้มเสียชีวิตก็ควรเปิดให้ญาติดูตั้งแต่วันแรกๆ ทั้งนี้ สภาพศพดูจากตาเปล่าไม่น่าเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุเพราะศพเละเกินไป

ขณะที่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตนได้สอบถามไปทาง สน.หนองจอก ซึ่งรายงานสาเหตุการเสียชีวิตมาว่า เกิดจากผู้ตายล้มลงไปโดนของมีคม โดยบริเวณจุดเกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดสามารถดูได้ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนมั่นใจในพยานหลักฐานว่าเกิดจากอุบัติเหตุ มันมีกล้องวงจรปิดในการเข้าออกที่เกิดเหตุ ไม่มีใครเดินเข้ามานอกจากผู้ตาย

พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า จากนี้ ก็ให้ทางญาติไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดได้ หากสงสัยประเด็นใดก็ยินดีที่จะตอบคำถามและช่วยตรวจสอบ ไม่ต้องกังวลใจ ตนก็กำชับไปทางท้องที่แล้วว่าหากญาติติดใจสงสัยประเด็นใด ก็ต้องตอบคำถามเขาให้ได้

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน