หมอพบก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในเลือดพ่อแม่ลูก หลัง สลบคาเก๋ง บนทางด่วน คาดสูดดมก๊าซจนขาดอากาศหายใจก่อนหมดสติโดยไม่รู้สึกตัว เจ้าตัวอยากให้เป็นเคสอุทาหรณ์สำหรับผู้ใช้รถทางไกล

กรณีเพจเฟซบุ๊ก คนข่าวบางปะกง รายงานว่า มีพ่อแม่ลูกหมดสติในรถยนต์ ขณะวิ่งอยู่บนทางด่วนบูรพาวิถี กม.39+800 ขาเข้าชลบุรี ม.9 ต.บางวัว อ.บางปะกง โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบรถยนต์ ทะเบียน 2กก 7720 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ข้างทาง มีนายธนัยนันท์ เชื้อถิระพงษ์ ผู้เป็นพ่อเป็นคนขับ อยู่ในอาการสั่นเทา เกร็ง ส่วนน.ส.จิตรารัตน์ นามจำปี ภรรยา นอนหมดสติบนที่นั่งข้างคนขับ น้ำลายฟูมปาก ด้านเบาะหลังพบ ด.ญ.แดง (นามสมมติ) วัย 7 ขวบ ลูกสาว หมดสติอยู่ในอาการชักเกร็ง ลิ้นแข็ง ตำรวจสภ.บางปะกง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ และกู้ชีพรพ.บางปะกง ใช้เครื่องช่วยหายใจก่อนรีบนำส่งรพ.บางปะกง เหตุเกิดเมื่อ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา นั้น

สลบคาเก๋ง / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รพ.บางปะกง ประสานมายัง รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งมีเครื่องมือครบครันในการรักษาผู้ป่วย นำตัวผู้ป่วยทั้ง 3 คน มารักษาต่อยังรพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เบื้องต้นแพทย์ตรวจดูอาการผู้ป่วยแล้ว น่าจะเกิดจากการสูดดมแก๊สจากท่อไอเสียที่เข้าไปในรถยนต์เป็นจำนวนมาก จนทำให้เกิดอาการหมดสติดังกล่าว จึงให้การรักษาในเบื้องต้นก่อนนำเข้ารักษาด้วยออกซิเจนความดันสูง (Hyper baric Oxygen Therapy / HBOT) เป็นการบำบัดด้วยวิธีหายใจด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์

ภายในห้องปรับบรรยากาศสูง (Hyperbaric Chamber) หรือห้องแชมเบอร์ เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกายของผู้ป่วย ได้มากกว่าภาวะปกติที่ความดันบรรยากาศปกติหลายเท่า การรักษานี้เป็น การรักษาเสริมหรือเพิ่มเติม อีกวิธีหนึ่งที่ใช้ร่วมกับการรักษาทางอายุรกรรมและศัลยกรรม เป็นการเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกาย ใช้เวลาในการรักษาภายในห้องปรับบรรยากาศ (ห้องแชมเบอร์) ประมาณ 2 ชม. ล่าสุดอาการของ 3 พ่อแม่ลูกพ้นขีดอันตรายแล้ว

นายธนัยนันท์ กล่าวว่า อยากให้เคสของตัวเองเป็นอุทาหรณ์ สำหรับผู้ใช้รถ ส่วนสาเหตุคงต้องให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องค้นหาต่อไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้กลิ่นลักษณะคล้ายควันจากท่อไอเสียภายในรถ แต่ก็ยังฝืนขับรถมาเรื่อยๆ เกือบ 1 ชม. เมื่อรู้สึกตัวว่าจะไม่ไหวแล้ว จึงจอดรถเข้าข้างทาง และสะกิดเรียกภรรยาซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ จากนั้นตนก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย

ด้าน น.ส.จิตรารัตน์ นามจำปี ภรรยา กล่าวว่า ในขณะเกิดเหตุกลิ่นคล้ายกลิ่นก๊าซไม่ทราบว่าก๊าซอะไร ทำให้เหมือนขาดอากาศหายใจจนหมดสติไปโดยไม่รู้สึกตัว ตื่นขึ้นมาอีกที มานอนอยู่โรงพยาบาลบางปะกงแล้ว ส่วนลูกสาวนั้นนอนหลับอยู่ก่อนแล้ว ที่เบาะด้านหลัง นับว่ายังโชคดีที่สามียังมีสติ จึงขับรถเข้าข้างทางก่อน มิเช่นนั้นไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น

นางศรีไพร สุขสมศักดิ์ อายุ 36 ญาติผู้ป่วย กล่าวว่า หลังทราบข่าวจึงเดินทางมาจากจากกรุงเทพฯ เพื่อมาดูอาการตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เมื่อทราบข่าวว่าลูกชายขับรถและจอดข้างทางโดยไม่ได้สติ จึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย และต้องขอขอบคุณ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ที่ดูแลเอาใจใส่ผู้ป่วย 3 พ่อแม่ลูกเป็นอย่างดีในครั้งนี้ด้วย

นพ.ธวัชชัย ศานติพัฒน์ แพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ กล่าวว่า ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว โดยวันที่เกิดเหตุผู้ป่วยหญิง อายุ 26 ปี มีอาการชัก หมดสติ และได้สติมาก็คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการอ่อนแรง ผู้ป่วยชาย อายุ 31 ปี คลื่นไส้ อาเจียน และผู้ป่วยเด็กหญิง อายุ 7 ปี หมดสติในรถ ทั้ง 3 คน ถูกนำส่ง รพ.บางปะกง ประมาณ 12.00 น. ของวันเกิดเหตุ

ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบ สารคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ไปจับเม็ดเลือด ทำให้เลือดไปส่งตามร่างกายไม่ได้ ผู้ป่วยจึงหมดสติ จากการตรวจอาการล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. ของวันนี้ ทุกคนรู้สึกตัวดี รับประทานอาหารได้ แพทย์จะประเมินอาการอีกครั้ง ผู้ป่วยชายน่าจะกลับบ้านได้วันนี้ ส่วนฝ่ายหญิงน่าจะต้องเป็นพรุ่งนี้

อย่างไรก็ตาม ข้อแนะนำสำหรับใครก็ตามถ้าสูดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ควรจะต้องถึงมือแพทย์ภายใน 6 ชั่วโมง แพทย์จะตรวจผ่าน ห้องความดันบรรยากาศสูง เป็นเครื่องตรวจสอบโดยเฉพาะ จะสามารถไล่ความดันคาร์บอนมอนอกไซด์ออกจากร่างกายได้

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน