เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดช้าง (ช้างให้) ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง หลังมีโลกในโซเชียลประกาศว่าพบบรรจุอัฐิพระราชมนู ทหารเอกคู่ใจสมเด็จพระนเรศวร พร้อมด้วยเจดีย์บรรจุอัฐิภรรยาพระราชมนู พอไปถึงพบว่าภายในวัดมีเจดีย์เก่าแก่ตั้งอยู่คู่กันห่างกันประมาณ 10 เมตร โดยเจดีย์องค์หนึ่งมีป้ายเขียนไว้ว่าเจดีย์บรรจุอัฐิ เจ้าพระยามหาเสนาบดี พระราชมนู (หลวงพ่อเพชร) ซึ่งมีประชาชนต่างเดินทางมากราบไหว้อยู่เป็นระยะ

201609211251335-20110111132303

พล.ต.หลักแก้ว อัมโรสถ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เจ้าของฉายา (ศ.ศิลาแลง) กล่าวว่า ตนเป็นคนอ่างทองและทราบข่าวจากทางเว็บไซต์ต่างๆว่า พบที่บรรจุอัฐิพระราชมนูทหารเอกคู่ใจสมเด็จพระนเรศวร พร้อมด้วยเจดีย์บรรจุอัฐิภรรยาพระราชมนู จึงเดินทางมาสักการะ จริงแล้วตนก็เคยทำเพลงของพระราชมนูให้ อ.ชินกรร้อง พระราชมนูมือขวาของสมเด็จพระนเรศวรวีรกรรมเด่นๆของพระราชมนูคือตอนที่พม่าเข้ามาตั้งหลักอยู่ใน อ.ไชโย จ.อ่างทอง สมเด็จพระนเรศวรจึงให้พระราชมนู เป็นแนวหน้าปรากฏว่าพระราชมนูไปปะทะก่อน สมเด็จพระนเรศวรจึงสั่งให้ถอยทัพก่อน แต่พระราชมนูไม่เชื่อสมเด็จพระนเรศวรจึงประกาศว่า ถ้าไม่ถอยให้เอาหัวมาด้วยจึงจำเป็นต้องถอย แต่พระนเรศวรดักซุ่มอยู่และเข้าโจมตีทัพพม่าจนได้ชัยชนะ และหลังจากพระนเรศวรสวรรคต พระราชธรรมนูนจึงลาออกมาบวชมาอยู่ที่วัดแห่งนี้

201609211251221-20110111132303

ด้านพระครูสุวัฒน์วรกิจ (สุพจน์ สุวจจโน) เจ้าอาวาสวัดช้าง กล่าวว่า วัดช้างแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ สร้างราวปี พ.ศ.1845 และเป็นวัดทางประวัติศาสตร์แต่ยังไม่มีใครรู้ คนเห็นว่าเป็นวัดธรรมดาแต่จริงๆแล้วสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่แรกในการลบแบบกองโจร ครั้งแรกในประวัติศาสตร์และเป็นสถานที่ฝังศพทหารไทยทหารพม่านับแสนคนในสมันนั้น สำหรับเจดีย์ที่บรรจุอัฐิพระราชมนูสมัยอยุธยามีการรบที่ทุ่งบางแก้ว พระราชมนูแม่กองระวังหน้า ได้ใช้วัดช้างให้เป็นที่ตั้งทัพทหารหมื่นนาย ออกรบแบบกองโจรกับพระเจ้าเชียงใหม่จนได้รับชัยชนะ สมเด็จพระนเรศวรทรงโปรดให้นำพระราชทรัพย์มาปฎิสังขรณ์วัด พระราชมนู (เพชร) จึงให้นายพลอยครูดาบใช้เรือกระแชงไปขนทองคำ และสิ่งของที่จำเป็นจากกรุงศรีอยุธยา พร้อมช่างสิบหมู่มาช่วย

201609211251333-20110111132303

ต่อมาหลังเปลี่ยนแผ่นดินพระราชมนูได้ลาออกจากตำแหน่งสมุหกลาโหมมาบวชที่วัดช้างให้ และสร้างวิหารถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนเรศวร พระราชมนูหรือหลวงพ่อเพชรจำพรรษาที่วัดช้างให้จนสิ้นอายุขัย ศิษย์และชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิรูปทรงกลม (ระฆังคว่ำ) ของท่านและภรรยาคือคุณหญิงปิ่นทิพย์ อโยทเยส มาจนบัดนี้ โดยในวันที่ 9 ต.ค.นี้ จะมีการสร้างอนุสาวรีย์พระราชมนู เพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้รำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเจดีย์ซึ่งบรรจุอัฐิของพระราชมนูอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมอย่างมาก ซึ่งทางวัดทำได้แต่เพียงดูแลรักษาไม่ให้ทรุดโทรมไปมากกว่าที่เป็นอยู่เท่านั้น

201609211251322-20110111132303

ขณะที่ นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวหลังจากที่ได้ดูข้อมูลและพูดคุยถึงความเป็นมาของเจดีย์บรรจุอัฐิพระราชมนู ทหารเอกคู่ใจสมเด็จพระนเรศวร พร้อมด้วยเจดีย์บรรจุอัฐิภรรยาพระราชมนู และวิหารที่พระราชมนู สร้างถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนเรศวร กับพระครูสุวัฒน์วรกิจว่า เจดีย์น่าจะเป็นเจดีย์ที่บรรจุอัฐิพระราชมนูทหารเอกคู่ใจสมเด็จพระนเรศวรจริง เนื่องจากหลังเปลี่ยนแผ่นดิน พระราชมนูได้ลาออกจากตำแหน่งสมุหกลาโหม มาบวชที่วัดช้างให้ จนเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัด และได้สร้างวิหารถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนเรศวร

“ตอนนี้ได้ให้สำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง รวบรวมประวัติความเป็นมาของพระราชมนู ทหารเอกคู่ใจสมเด็จพระนเรศวรออกเผยแพร่ และพัฒนาวัดช้างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดอ่างทองต่อไป เนื่องจากแบบอย่างของข้าราชการ ที่รักชาติรักแผ่นดินจนสิ้นลม สมควรที่คนไทยจะได้สร้างอนุสาวรีย์วีรบุรุษสามัญชนให้ท่าน” นายวีร์รวุทธ์ กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน