พ่อแม่ร้อง คลินิกทำลูกตาย 10 ปี แต่คดียังไม่คืบหน้า เผยปัจจุบันนี้ศพลูกก็ยังไม่ได้เผา รอคอยความยุติธรรม ซวยซ้ำรถป้ายแดงจอดหน้าบ้านถูกขโมยหาย ด้าน ตำรวจ เผยรถคันนี้แปลกมีเลขตัวถัง 2 ที่

คลินิกทำลูกตาย / เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 16 พ.ย. นายณัฏฐ์เดชา อินาวัง อายุ 62 ปี และนางหทัยภัสสร์ นนท์นริม อายุ 50 ปี สามีภรรยา อาชีพค้าขาย ได้ร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าวเนื่องจากลูกชายเสียชีวิตมาเป็นเวลา 10 ปี 3 เดือนแล้วจากคลินิกแห่งหนึ่งที่ตรวจรักษาไม่ละเอียด และไม่ยอมออกใบส่งตัวให้ไปโรงพยาบาล จนเป็นเหตุให้ลูกชายเสียชีวิต กระทั่งปัจจุบันคดียังไม่มีความคืบหน้า

อีกทั้ง เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา รถกระบะ สีเทา ทะเบียนป้ายแดง จ2852 กรุงเทพมหานคร ได้ถูกขโมยไปจากหน้าบ้านเลขที่ 34/18 ม.4 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร จึงไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน จึงทราบว่าบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้นำรถยกมายกไป โดยอ้างว่าหมายเลขตัวถังด้านหน้าตรงกับหมายเลขตัวถังรถอีกคัน จึงได้ตามมาตรวจยึด ทั้งนี้ รถคันนี้เคยขับไปเฉี่ยวชนจนต้องไปซ่อมที่จ.ชลบุรี เมื่อซ่อมเสร็จแล้วและได้รถคืนไม่นานก็รถหาย

“ลูกชายเสียชีวิตไปกว่า 10 ปี แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ซึ่งเราได้ไปร้องเรียนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) 2 ครั้ง และไปร้องเรียนที่จเรตำรวจอีก 1 ครั้ง แต่เรื่องก็เงียบเหมือนเดิม จะสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้องก็ไม่ทราบ ปัจจุบันศพลูกยังไม่เผา ยังคงอยู่ที่วัดไผ่เขียน ดอนเมือง กทม. เพื่อรอความยุติธรรมให้กับครอบครัวของเรา” นางหทัยภัสสร์ กล่าว

นางหทัยภัสสร์ กล่าวต่อว่า ส่วนอีกเรื่องคือเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้จอดรถไว้หน้าบ้าน หลังจากไปทำธุระกลับมาก็พบว่ารถหายไปแล้ว ต่อมาทราบว่ามีบริษัทเอกชนได้มายกรถไปยังสถานที่ประมูลรถ ซึ่งรถเราหาย แต่ร้อยเวร สน.ดอนเมือง บอกกับตนว่า คนที่มาขโมยได้ขโมยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ต้องไปสู้กันที่ศาล แล้วแต่ศาลจะคืนรถให้ใคร

นางหทัยภัสสร์ กล่าวอีกว่า ซึ่งหลังจากได้แจ้งความและพบรถยนต์จนประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพบว่ารถยนต์ไม่ได้มีการตัดต่อดัดแปลงแต่อย่างใด เลขเครื่องยนต์และตัวถังรถพบว่าตรงกับรถของผู้เสียหาย แต่บริษัทดังกล่าวก็ไม่ยอมคืน เนื่องจากผู้ที่นำรถไปนั้นได้อ้างว่ารถที่ขโมยมานี้เป็นรถของเขา

ด้าน ร.ต.อ.ชญาสิทธิ์ พามา พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เปิดเผยว่า ทางตำรวจอยากคืนรถของผู้เสียหายตั้งแต่แรกแล้ว หากยืนยันว่าเป็นรถของผู้เสียหายจริง ทั้งนี้มีบริษัทไฟแนนซ์ที่ตามยึดรถ เนื่องจากเขาเห็นรถคันนี้เหมือนรถคันที่ตามตรวจยึดรถอยู่ เมื่อตรวจสอบพบว่ามีหมายเลขตัวถัง ตรงตามที่ตรวจยึด โดยรถคันนี้แปลกตรงที่มีเลขตัวถังสองที่ คือด้านหน้าและด้านหลัง จึงเป็นข้อพิพาทระหว่างเจ้าของรถกับบริษัทไฟแนนซ์

ร.ต.อ.ชญาสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ในเมื่อต่างฝ่ายต่างยืนยัน จึงได้รับเป็นคดีและได้ส่งตรวจพิสูจน์ โดยขั้นตอนการส่งตรวจต้องใช้ระยะเวลา หลังจากที่ พฐ. ได้ตรวจแล้วพบว่าโครงรถไม่ใช่โครงรถของเจ้าของรถ พบว่าเป็นโครงรถของอีกคันหนึ่งและได้นำมาตอกเลขใหม่ จึงต้องนำรถไปตรวจพิสูจน์ต่อที่บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ สำนักงานใหญ่ เพื่อให้เขาได้ยืนยันว่าโครงรถเป็นโครงรถของคันไหน

“ที่ผ่านมาได้อธิบายให้ผู้เสียหายฟังแล้ว ทางตำรวจได้อายัดรถมาไว้ที่สถานีตำรวจ เมื่อเป็นคดีแล้วจึงต้องตรวจสอบให้ละเอียดและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” ร.ต.อ.ชญาสิทธิ์ กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน