เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 17 ม.ค. โดยการอำนวยการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5 และผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ให้มีการตรวจสกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติด 24 ชั่วโมง ด่านตรวจผาหงส์เป็นด่านตรวจถาวรของสถานีตำรวจภูธรไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ แต่ได้ร่วมบูรณการร่วมกันทั้งทหารกองกำลังผาเมือง, ตำรวจตระเวนชายแดน 334, หน่วยสุนัขทหาร ที่ได้ร่วมสนธิกำลังทำงานร่วมกันในการสกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติดที่ทะลักออกมาจากชายแดนทางอ.แม่อาย, อ.ฝาง, อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ โดยสืบทราบว่ามีผู้ค้ารายใหม่โผล่ขึ้นมาจำนวนหลายราย ที่ทำการลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่นอกประเทศไทย เข้ามาตามแนวชายแดนเพื่อพักในพื้นที่ชายแดนของไทย แล้วจึงนำเข้าสู่พื้นที่เมืองชั้นในของไทยเพื่อจำหน่ายให้กับเยาวชน ประชาชนและผู้ใช้แรงงาน
ต่อมาในวันที่ 16 ม.ค. ทางพ.ต.ท.นิกร สุตจริตธรรม สารวัตรปราบปราม นำชุดปฏิบัติการร่วมตั้งด่านตรวจผาหงส์ ตรวจค้นรถยนต์ ยี่ห้อ เชฟโรเลต สีส้ม หมายเลขทะเบียน กจ2191 แพร่ และขยายผลถึงเช้าวันที่ 17 ม.ค. โดยมีนายอนุวัฒน์ ติ๊บแก้ว อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 370 หมู่ที่ 1 ตำบลวังชิ้น อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ เป็นคนขับรถและมีน.ส.ชุติมณน์ ต๊ะโนสิงห์ อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 91/1 ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เป็นคนนั่งข้างคนขับ และนายณัฐภูมิ ชัยวงค์ อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 14/2 หมู่ที่ 5 ตำบลแม่เกิง อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ทั้ง 3 คน ไปหาซื้อยาบ้าที่พื้นที่บ้านห้วยเต่า หมู่ที่ 10 ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่
โดยรับสารภาพว่า ไปติดต่อซื้อยาบ้าจากนายตี๋ และนายเบ โดยนัดหมายกันที่โรงแรมเอื้องเหนือ บ้านสันต้นดู่ ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ แต่ย้ายไปรับมอบยาบ้าที่ซอยเข้าบ้านห้วยเต่าเพื่อหลบกล้องวงจรปิดที่โรงแรม เมื่อได้ยาบ้ามาแล้วจึงเข้าเปิดโรงแรมนอน สองห้องเบอร์ 5 และ 6 และร่วมเสพยาบ้ากันที่ห้องเบอร์ 6 และในเวลาเช้าจึงออกเดินทาง เพื่อจะนำยาบ้าไปส่งนายทุนที่จังหวัดลำปาง แต่ก็ได้ถูกจับได้
โดยทางตำรวจหญิงตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนในกล่องยาอมจากน.ส.ชุติมณน์ จำนวน 37 เม็ด และค้นในรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต สีส้มทะเบียน กจ2191 แพร่ พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ที่หลังคารถ มีชนวนกันความร้อนครอบอยู่ อีกจำนวน สองมัด 4,000 เม็ด ทางตำรวจและทหารขยายผลที่มาของยาบ้าในพื้นที่ชายแดน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ แต่ไม่พบ และตรวจดูกล้องวงจรปิดก็ได้ภาพแต่เพียง 3 คนที่มีการเข้าออกโรงแรม จึงนำตัวทั้ง 3 คนส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
