ตำรวจคุมตัว หนุ่มโหดชิงทรัพย์ เอาไม้กระหน่ำฟาดหัวยายวัย 60 ปี จนล้มคาจักรยานยนต์ไปทำแผน สารภาพเพิ่งพ้นโทษเมื่อปี 2559 ก่อนมาอยู่กินกับภรรยาที่เจอในโรงงาน รับวันเกิดเหตุไม่เงินเติมน้ำมันรถ ก่อนลงมือก่อเหตุดังกล่าว

จากกรณีโลกออนไลน์แห่แชร์คลิปคุณยายท่านหนึ่ง ขณะกำลังสตาร์ทรถจักรยานยนต์อยู่นั้น ได้มีชายคนร้ายถืออาวุธเป็นท่อนยาว เดินอ้อมมาด้านหลังก่อน จะให้อาวุธกระหน่ำตีบริเวณศีรษะและท้ายทอยด้านหลัง จนคุณยายคนดังกล่าวร่างล้มลงพื้น จากนั้นคนร้ายได้กรรโชกทรัพย์สินแล้วหลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : จับแล้ว! หนุ่มโหดชิงทรัพย์ เอาไม้กระหน่ำ ฟาดหัวยาย จนล้มคาจยย.

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 พ.ย. ที่สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน รรท.ผบกภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และพ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรฯ ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายอนุสรณ์ สวัสดิ์ อายุ 35 ปี ชาวจ.เลย ในข้อกล่าวหา “ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ” ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานีที่ 339/2561

พ.ต.อ.วรณัฏฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 03.10 น. เกิดเหตุคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ตามประกบ นางเกสร สุขสบาย อายุ 60 ปี ขณะขับรถจักรยานยนต์กลับจากดูหมอลำที่ห้างเซฟมาร์ท เพื่อกลับบ้านที่หมู่บ้านเฟิร์สโฮม ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยคนร้ายมีรูปร่างผอม สูงประมาณ 160 เซนติเมตร ผิวคล้ำ สวมเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาว สวมหมวกสีขาว และรองเท้าผ้าใบสีเทา

โดยขับรถจักรยานต์ ยี่ห้อฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์ สีดำ-แดง มาจอด แล้วเดินเข้ามาทำทีช่วยนางเกสรหยอดเงินใส่ตู้เติมเงิน ขณะเดียวกันกับที่นางเกสร เปิดหยิบเงินออกมาคนร้ายเห็นมีเงินจำนวนมาก จึงรอจนนางเกสรเติมเงินเสร็จหันหลังกลับ คนร้ายก็ใช้ท่อนไม้ที่แอบซ่อนไว้ในเสื้อ ออกมาตีเข้าที่ศีรษะของนางเกสร 3 ครั้งจนล้มลงพร้อมรถจักรยานยนต์ แล้วคนร้ายได้ขโมยกระเป๋าสะพายข้างในมีเงินสด 1,200 บาท โทรศัพท์ 1 เครื่อง และบัตรสวัสดิการของรัฐ (บัตรคนจน) แล้วก็ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

พ.ต.อ.วรณัฏฐ์ กล่าวต่อว่า ต่อมาชุดสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณใกล้ที่เหตุและเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีไป จนได้ภาพของคนร้ายแล้วนำไปให้ประชาชนที่อยู่ในระแวกนั้นดูและลงประกาศในสื่อโซเชียล จนมีพลเมืองดีให้ข้อมูลว่าคนร้ายคือ นายอนุสรณ์ และเคยทำงานที่อุดรฯ ด้วยกัน มีภรรยาทำงานอยู่ที่โรงงานใน อ.หนองแค จ.สระบุรี

จากนั้น จึงได้ขออนุมัติหมายจับที่ศาลจังหวัดอุดรธานี แล้วเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 13.00 น. ชุดสืบสวนนำกำลังไปจับกุมนายอนุสรณ์ได้ที่หอพักของภรรยา อ.หนองแค จ.สระบุรี พร้อมโทรศัพท์มือถือของนางเกสร ชุดแต่งกายในวันก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวน

จากการสอบสวน นายอนุสรณ์ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ จ.เลย และถูกจับกุม โดยเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือน ต.ค. 2559 แล้วได้ไปทำงานที่โรงงานกระเบื้องแห่งหนึ่งในจ.สระบุรี จนได้มาอยู่กินกับภรรยาที่ทำงานด้วยกัน ต่อมาตนเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม ทำให้แขนบาดเจ็บจนไม่สามรถทำงานได้จึงต้องลาออก

นายอนุสรณ์ ให้การต่อว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ขับรถจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุพาภรรยามาเยี่ยมญาติที่ทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรฯ และพบว่าเงินใกล้หมด ไม่มีน้ำมันเติมรถจักรยานยนต์ จึงส่งภรรยาขึ้นรถประจำทางกลับไปทำงานที่ จ.สระบุรี แล้วในวันดังกล่าวก็มานั่งกินเหล้ากับญาติของภรรยาที่ศาลาริมทาง

“จนเห็นหญิงผู้เสียหายซึ่งมีอายุมากแล้ว มาเติมเงินที่ตู้เติมเงินโทรศัทพ์ จึงขับรถมาจอดที่กองไม้ห่างไปเล็กน้อย แล้วนำท่อนไม้ซ่อนมาในเสื้อ ก่อนจะเดินมาที่ผู้เสียหาย และทำทีจะช่วยเติมเงิน เมื่อเห็นปลอดคนและได้จังหวะที่ผู้เสียหายหันหลัง จึงใช้ท่อนไม้ฟาดเข้าที่ศีรษะ แล้วชิงกระเป๋าใส่เงินไป จากนั้น ก็นำเงินไปเติมน้ำมันรถแล้วขับกลับจ.สระบุรี ก่อนมาโดนรวบดังกล่าว” นายอนุสรณ์ ให้การ

ด้าน นางเกสร เปิดเผยว่า ตนมีสามีเป็นข้าราชการบำนาญ ทหาร เกษียณมาได้ 10 ปีแล้ว ก่อนเกิดเหตุ ตนได้มาทำงานเสริมเป็นคนล้างจานของร้านอาหาร “ไม้เก่าเหลาไม้” ข้างบ้านพักคนชรา 4 แยกบ้านหนองใส ใกล้ที่เกิดเหตุ ก่อนหน้านี้หลานชายที่กลับจากไปทำงานที่ต่างประเทศได้โทรศัพท์มาชวนไปดูหมอลำที่ห้างเซฟมาร์ท หลังเลิกงานจึงได้ไปดูหมอลำกับหลานชาย จนหมอลำเลิก หลานชายได้แยกไปทำธุระต่อที่ อ.เพ็ญ ส่วนตนก็ได้ขับรถจักรยานยนต์กลับคนเดียว

“พอดีหลานโทรเข้ามา แต่เมื่อดูโทรศัพท์พบว่าเงินหมด จึงจอดรถลงไปเติมเงินที่ตู้หน้าร้านที่เกิดเหตุ จนชายดังกล่าวมาทำทีช่วยเติมเงินให้ แต่เห็นผิดสังเกตจึงรีบเติมเงินแล้วหันหลังจะขึ้นรถรีบออกไป ก็มาถูกชายดังกล่าวตีศีรษะ แล้วกระชากกระเป๋าไป จนได้มีคนเห็นและนำตนส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรฯ ซึ่งหมอต้องเย็บ 2 เข็ม ถ้าคนร้ายมาขอโทษก็จะไม่ยอมอภัยให้ ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด” ผู้เสียหาย กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากการแถลงข่าวและสอบปากคำผู้ต้องหาเสร็จแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัวนายอนุสรณ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน