หนุ่มช้ำรัก ผูกคอตายไม่สำเร็จ บอกเพื่อน “รู้แล้วต้องทำยังไง” บิดมอเตอร์ไซค์ ทะลุกำแพง คอหักดับสลดคาที่

บิดมอไซค์ ฆ่าตัวตาย / วันที่ 21 พ.ย. พ.ต.ท.สัมฤทธิ์ ปานที สว.สส.(สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ว่าเกิดมีอุบัติเหตุ รถจยย.พุ่งชนบ้าน บริเวณป่าช้าเก่าด้านหลังเมรุวัดทองทั่ว ม.4 รอยต่อ ม.13 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย หลังรับแจ้ง ได้พร้อมแพทย์เวร รพ.พระปกเกล้าฯ และกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ร่วมเดินทางตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุ พบเป็นถนนแยกสามแพร่ง และพบ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1- กฒ-9710 จ.ระยอง อยู่ในสภาพ พุงชนกับกำแพงบ้าน ซึ่งปลูกไว้เป็นโรงเก็บของไม่มีเลขที่อยู่กลางสามแยก จนกำแพงบ้านทะลุเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ ใกล้กัน พบศพของ นายไมโค ทิลาด อายุ 26 ปี สัญชาติลาว ที่พักตามบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าว บริเวณ ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี นอนเสียชีวิตอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง

จากผลการตรวจชันสูตรของแพทย์เบื้องต้น พบกระดูกต้นคอหักเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิต

จากการสอบสวนนายศุขพิชัย ดียิ่ง อายุ 38 ปี นายจ้างของ นายไมโค ผู้เสียชีวิต โดยให้การว่า ปัจจุบัน นายไมโค เป็นคนงานในความดูแล โดยได้รับมาทำงานด้วยประมาณ 3 ปี ปกติเป็นคนขยันทำงาน แต่ระยะหลังที่ผ่านมา นายไมโค มักมีอาการซึมเศร้า เนื่องจากสาวคนรักขอแยกทาง

ล่าสุดคืนที่ผ่านมา นายไมโค ก่อเหตุแอบไปผูกคอฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จเนื่องจาก เชือกที่ใช้ผูกคอขาดก่อน และเพื่อนเข้ามาช่วยได้ทัน

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายไมโค ได้ขอตัวขี่ รถ จยย.ออกไปข้างนอก แต่ไม่ได้บอกว่าไปไหน พูดแค่เพียงว่า “รู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร” ซึ่งตนเองและเพื่อนคนงาน เหมือนจะรู้ว่าเป็นลางบอกเหตุ แต่ยังพยายามพูดปลอบใจ นายไมโคว่าคิดทำอะไรให้คิดให้ดีๆ

จากนั้น นายไมโค ได้ขี่รถ จยย. ออกจากที่ทำงานไปด้วยความเร็วสูง ผ่านตามถนนใกล้กับที่ทำงาน จากนั้นได้ยินเสียงรถ จยย.พุ่งชนของแข็งดังโครมใหญ่ จึงพากันวิ่งออกมาดู ก็พบว่า นายไมโค ได้ขี่รถจยย. พุ่งชนโรงเก็บไม้และอุปกรณ์เครื่องมือที่ทำงาน จนทะลุกำแพงปูนทะลุเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่

ส่วน นายไมโค ร่างนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นหญ้าหน้าใกล้กับ รถจยย. จึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ แต่ไม่ทันการ นายไมโค ได้เสียชีวิตไปก่อนเจ้าหน้าที่จะเดินทางมาถึง หลังการตรวจสอบร่องรอยหลักฐานในที่เกิดเหตุโดยละเอียด

ทางสารวัตรเวรเจ้าของคดี ได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นำร่างผู้เสียชีวิตส่ง รพ.พระปกเกล้าฯ เพื่อให้แพทย์ทำการตรวจชันสูตรยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนติดต่อญาติทางฝั่งประเทศลาว มารับศพกลับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน