หนุ่มเลี้ยงควาย สะอื้น ไม่เหมือนที่คุยกันไว้ เรื่องกลับตาลปัตร ทำไมนายกทำแบบนี้ ขอความเป็นธรรมให้ตนบ้าง ตนแค่อยากสร้างรอยยิ้มให้ทุกคน ตอนมอบเงินให้เขายังไถ่ลูกควายมาให้เลี้ยง

หนุ่มเลี้ยงควาย จากกรณี นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ อายุ 34 ปี ชาวบ้านสุขเดือนห้า อ.เนินขาม จ.ชัยนาท เจ้าของภาพควายยิ้ม ที่เป็นขวัญใจชาวโซเชียล ได้ประกาศระดมทุนเพื่อซื้อเจ้าทองคำ ควายยิ้มเพศผู้ โดยระบุว่า เจ้าของเดิมได้บอกขายควาย นายสุรัตน์ จึงได้ประกาศขอเงินบริจาคเพื่อนำไปไถ่ควายยิ้มคืน โดยมีชาวเน็ตที่ได้รับทราบเรื่องโอนเงินไปให้เกินกว่าแสนบาท แต่เรื่องกลับพลิกผัน หลังนายบุญเลิศ กาฬภักดี อายุ 62 ปี นายก อบต.สุขเดือนห้า เจ้าของควายตัวจริง เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.คันนายาว อ้างไม่เคยบอกขายควาย ก่อนที่ตำรวจจะจ่อแจ้งข้อหานายสุรัตน์ว่าฉ้อโกงประชาชน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 26 พ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายสุรัตน์ พบว่ามีสีหน้าเคร่งเครียด เพราะข่าวที่ออกมา มีคนในโซเชียลรุมด่า ประจานตนในทางที่เสียหายจำนวนมาก หลายคนไม่ได้ฟังความจริงจากปากตน ซึ่งตนเพียงแค่อยากอนุรักษ์ควายไทยให้อยู่คู่คนไทย สร้างรอยยิ้มให้คนทั่วประเทศต่อไปเหมือนๆ ที่เคยทำมาตลอด ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้

นายสุรัตน์ เล่าว่า ตอนนี้ทราบมาว่า นายกบุญเลิศ ได้นำเงิน 1 แสนบาท ไปคืนที่ สน.คันนายาว เขาบอกว่าตนเรี่ยไรเงินมาโดยมิชอบ หลอกลวงต้มตุ๋นประชาชน จริงๆ ตนไม่เคยคิดอยากจะได้เงินตรงนี้มาเป็นของตัวเองเลย เพื่อนๆ ให้กำลังใจมา บอกว่าอยากให้ตนซื้อทองคำไว้ที่นี่ อยากให้ตนเลี้ยงดูแลและสร้างรอยยิ้มไปตลอด

เจ้าตัวยันมีขั้นตอนชี้แจง

ตนมีขั้นตอนชี้แจงการซื้อ มีการส่งมอบเงินให้นายกไปแล้ว ตนก็บอกว่าเจ้าทองคำเป็นของทุกๆ คน ไม่ใช่ของตน จะดูแลให้ดีที่สุดสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนได้เห็น และส่วนเงินที่เกินมา ตนให้ทุกคนลงความเห็นว่าให้ตนไปใช้อะไร อย่างไรก็ตามเงินทุกบาททุกสตางค์ตนยังไม่ได้ใช้ จะรอให้เพื่อนลงความเห็นว่าจะใช้ทำอะไรตามที่เห็นสมควร ตามที่ตนเคยบอกเพื่อนๆ ว่า ตอนที่นายกเขาจะเอาเจ้าทองคำกลับ ตนได้บอกเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กว่าถ้าอยากให้ตนเลี้ยงเจ้าทองคำและได้อยู่กับตนที่นี่ช่วยระดมทุนคนละเล็กคนละน้อย เพราะไม่อยากให้เป็นภาระใครคนใดคนหนึ่งมากเกินไป เพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กก็ยินดีร่วมบริจาคคนเล็กคนละน้อย เมื่อเงินครบตนได้นำเงินไปซื้อเจ้าทองคำและได้จ่ายเงินให้ท่านนายกไป และมีพยานรู้เห็นทุกอย่าง ตนพยายามทำขั้นตอนให้ดีที่สุดแล้ว ไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา อยากให้เพื่อนๆ ที่ทำบุญมาแล้วขอให้ช่วยตนแสดงความบริสุทธิใจ ที่ช่วยตนให้นำเงินมาซื้อเจ้าทองคำจริงๆ

วอนช่วยคิดจะเอาเงินไปทำอะไรต่อดี

“ตอนนี้นายกเขาไม่รับเงินที่เพื่อนๆ ทำบุญมาครั้งนี้ แล้วเขาจะนำทองคำคืนไป ก็อยากให้เพื่อนๆ ช่วยแสดงความคิดเห็นว่าจะนำเงินที่บริจาคมาทำอะไรต่อไป หรือบางคนที่รู้สึกไม่สบายใจ ให้นำสลิปมาแสดงผมจะโอนเงินคืนให้ เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ยังอยู่ครบถ้วน ผมไม่เคยคิดอยากได้เป็นของตัวเองอยู่แล้ว ผมเพียงฝันอยากมีควายเลี้ยง มีความสุขแบบเรียบง่าย ไม่คิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ เขาไปแจ้งความว่าผมหลอกลวงต้มตุ๋น หาเงินมาโดยมิชอบ จะให้ผมไปมอบตัวในวันพรุ่งนี้ อยากจะให้ความเป็นธรรมผมบ้าง ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมรวมทั้งสภาพจิตใจยังไม่ดีเท่าไร เพราะเจอกับหลายกระแส ตอนนี้ผมเครียดมาก” นายสุรัตน์ กล่าว

ไม่คิดว่านายกจะทำกับตนแบบนี้ ตอนที่มอบเงินไปแล้วเขายังได้ไถ่ชีวิตลูกควายมาให้เลี้ยง ตอนแรกตนก็ดีใจที่ให้การสนับสนุนในการอนุรักษ์ควาย แต่กลับมาเป็นแบบนี้ได้ไง ขอความเป็นธรรมให้ตนด้วย ตนยืนยันว่าไม่เคยคิดอยากได้เงินตรงนี้มาเลย เพียงแต่อยากทำตามวัตถุประสงค์ของคนที่เขาบริจาคเงินมาว่าจะให้ไปซื้อเจ้าทองคำมาเลี้ยง อยากสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนได้เห็น ได้ทำตามเป้าหมายของทุกคนแล้ว และยืนยันมาตลอดว่าทองคำเป็นของทุกๆ คน ทุกวันนี้ตนยังไม่ได้ใช้เงินไปไหนยังอยู่ทุกบาททุกสตางค์

ก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับ นายบุญเลิศ ก่อนที่จะรวบรวมเงินได้ เพื่อสอบถามข้อมูล ทราบว่า นายกจะขายควายในราคา 1 แสนบาท เพราะซื้อมา 8 หมื่นบาท ควาย 2 ตัวที่เป็นตัวเมียก็บอกขายไปแล้ว เดี๋ยวมีคนมารับไป ส่วนทองคำ สุรัตน์ บอกจะซื้อไว้ จึงให้โอกาสหาเงิน ยังไม่ได้รีบร้อนขายไป มีคนมาถามซื้ออยู่ตลอด เพราะไม่ได้บอกขาย เอาไว้มาทำพันธุ์

หลังจากรวมเงินได้ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อไปทางนายกอีกครั้งหนึ่ง ทางนายกบอกว่า จะให้ลูกน้อง คือพ่อตาของสุรัตน์ ไปรับเงินแทน เพราะตนไปภูเก็ต และส่งมอบควายเลย จริงๆ ตอนแรกก็ให้ควายไปเลี้ยงแล้ว ไม่รู้ว่าจะไปลงขายอย่างนั้น ควายราคาก็แพง ซื้อมาจากที่ จ.อุทัยธานี คิดว่าจะซื้อควายตัวเมียให้อีกตัวหนึ่ง ยกให้แบบอย่างนี้ จะไปไถ่จากโรงฆ่าสัตว์ให้ สักราคา 2-3 หมื่น มาอยู่เป็นคู่กับทองคำ และฝังไมโครชิพพร้อมกัน


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน