สุดสลด หนุ่มขับกระบะ หลับใน พุ่งอัดท้ายสิบล้อ พ่อนั่งท้ายกระบะร่างกระเด็นเสียชีวิตกลางถนน อานั่งมาด้วยดับคาที่นั่งข้างคนขับ เผยขับมาเลนกลางก่อนเกิดอาการวูบจนเกิดเหตุดังกล่าว สุดเศร้าไม่คิดว่าจะทำให้พ่อและอาต้องมาจบชีวิตแบบนี้

หลับใน / เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 28 พ.ย. ร.ต.อ.ธีรพัทธ ป้องเรือ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ไชโย จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุรถกระบะชนท้ายรถสิบล้อ บนถนนสายเอเชียขาขึ้นนครสวรรค์ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 58-59 ม.4 ต.จรเข้ร้อง อ.ไชโย จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม ว่าที่ร้อยโท อรรถชล ทรัพย์ทวี นายอำเภอไชโย, แพทย์เวรโรงพยาบาลไชโย และเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน ณฉ-7029 กทม. ซึ่งบริเวณด้านท้ายบรรทุกสิ่งของสัมภาระมาเต็มคัน ชนอัดก็อบปี้ติดอยู่กับท้ายรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 80-1933 บุรีรัมย์ สภาพด้านหน้าพังยับเยินหัวเก๋งยุบมาถึงที่นั่งผู้โดยสาร ภายในรถกระบะพบผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตติดอยู่ในรถ 2 ราย เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยเหลือออกมาจากรถ ทราบชื่อ คือ นายสุคนธ์ ดวงดาว อายุ 31 ปี ชาวจ.นครสวรรค์ คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย และบริเวณเบาะนั่งข้างคนขับพบศพ นายเวที ดวงดาว อายุ 40 ปี ถูกอัดก็อบปี้ติดอยู่กับรถ

ส่วนบริเวณท้ายรถพบมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลไชโย นอกจากนี้ ห่างจากตัวรถกระบะประมาณ 100 เมตร พบศพ นายปราโมทย์ ดวงดาว อายุ 60 ปี พ่อของนายสุคนธ์ คนขับรถกระบะนอนเสียชีวิตอยู่กลางถนนสภาพร่างกายแหลกเหลว

จากการสอบถาม นายยงยุทธ กิตติสากล อายุ 60 ปี คนขับรถบรรทุก กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถบรรทุกเศษแก้วจะมาส่งที่ บจ.ทวีทรัพย์ (จิวแจ๊ะเฮง) ระหว่างที่ตนขับมาตามทางที่เลนซ้ายสุด เพื่อมุ่งหน้าจะไปกลับรถเพื่อไปส่งของที่โรงงาน จู่ๆ รถกระบะคันดังกล่าวขับมาอย่างไรไม่รู้ พุ่งชนอัดติดท้ายรถของตนอย่างแรงจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน นายสุคนธ์ กล่าวว่า ตนทำงานที่อยู่ที่บริษัท พรรณกาญจนวิกรณ์ จำกัด รับเหมาเกี่ยวกับการรื้อถอนก่อสร้างศาลาริมถนน ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วย พ่อ อา และคนงานอีก 2คน เดินทางออกมาจากศรีนครินทร์ มุ่งหน้าจะไปเก็บงานที่จ.พิษณุโลก โดยมีนายเวทีผู้เป็นอานั่งหน้าคู่มากับตน ส่วนพ่อและคนงานที่เหลือนั่งมาท้ายรถ

“ระหว่างที่ขับมาถึงที่เกิดเหตุ ผมขับมาเลนกลาง และยอมรับเลยว่า ผมเกิดอาการวูบ ทำให้รถเสียหลักไปชนอัดท้ายรถบรรทุกดังกล่าว พอได้สติก็ชนแล้ว ผมตกใจและเสียใจมาก ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนทำให้พ่อและอาเสียชีวิตแบบนี้” นายสุคนธ์ กล่าว

ขณะที่ ร.ต.อ.ธีรพัทธ กล่าวว่า จากการตรวจสอบและสอบสวนในที่เกิดเหตุทราบว่าคนขับรถบรรทุกนั้นขับมาเลนซ้ายตามปกติ ส่วนคนขับรถกระบะขับมาเลนกลาง และยอมรับว่าขณะขับมาเกิดอาการวูบจนทำให้รถเสียหลักไปพุ่งชนอัดท้ายรถบรรทุก จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิต 2 ราย

โดยศพของผู้เป็นพ่อที่นอนเสียชีวิตอยู่ห่างจากรถนั้น คาดว่าขณะเกิดเหตุด้วยแรงชนอาจทำให้ร่างกระเด็นออกมาแล้วถูกรถอื่นทับจนร่างกายแหลกเหลว อย่างไรก็ตาม จะได้ทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน