เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 มค 60. พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า ทางตำรวจกองเมืองเชียงใหม่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวนำโดย พ.ต.ต.พิษณุ เตรียมดี สว.ส.ทท.1 กก.4 บก.ทท.พร้อมกับพวก ได้ทำการจับกุมตัว นักท่องเที่ยวชาวสวีเดน โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เวลา 19.30 น วันที่ 20 มค 60 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาคือ นายเคนี่ อันเดรส ปารา โบบาดีลา (MR.KENY ANDRES PARRA BOBADILLA) อายุ 35 ปี สัญชาติ สวีเดน พร้อมด้วยของกลาง แหวนสีเหล็กสีเงิน จำนวน 4 วง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อวันพลัส 2 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง กระเป๋าสะพายสีน้ำตาล(แบบหนัง) จำนวน 1 ใบ หูฟังแบบครอบศีรษะ ยี่ห้อมาแชล จำนวน 1 อัน ตำแหน่งที่พบของกลางที่ตำรวจยึดได้พบวางอยู่บนพื้นภายให้องพักของผู้ถูกจับ และในตัวของผู้ต้องหา โดยกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐาน “ รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด เกิดขึ้น ” โดยได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุแห่งการจับให้ผู้ถูกจับทราบแล้ว ผู้ถูกจับ การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

 

พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนการจับกุมในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.ชยกร ไชยพรม พนักงานสอบสวนเวร ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวสวีเดน เดินทางมาพบโดยแจ้งว่าถูกคนร้ายชิงเอาทรัพย์สินไป จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ล่ามและพนักงานสอบสวน รับฟังข้อมูลจากผู้เสียหาย ทราบว่าผู้แจ้งคือ นายเคนี่ แจ้งว่าวันที่ 20 มค 60 เวลาประมาณ 11.00 น. ขณะที่ เดินอยู่ริมถนนช้างคลาน (หน้าไปรษณีย์สาขาย่อยช้างคลาน) มุ่งหน้าจะไปแยกแสงตะวัน ได้เดินสวนกับชายไทยจำนวน 3 คน ขณะเดินสวนกัน 1 ในชายไทยจำนวน 3 คน ได้ใช้อาวุธมีดจี้ที่เอว และชายไทยอีก 2 คนที่เดินมาด้วยกันยืนล้อม แล้วช่วยกันขู่บังคับเอาทรัพย์สินไป ประกอบด้วยเงินไทย รวมจำนวน 25,000 บาท เพาเวอร์แบงค์ สีขาว จำนวน 1 อันบัตรเครดิดการ์ด 1 ใบ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คยี่ห้อ HP จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อวันพลัส จำนวน 1 เครื่อง กระเป๋าหนังสีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ หูฟังแบบครอบศีรษะ จำนวน 1 อัน และแหวนเหล็กจำนวน 4 วง เมื่อทราบข้อมูลดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ตำรวจท่องเที่ยวและล่ามแปล ให้ นายเคนี่ พาไปดูสถานที่เกิดเหตุ ตามสถานที่ต่างๆ ที่อ้างถึง


จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆ ตามผู้เสียหายกล่าวอ้างไม่พบว่า ผู้เสียหายไปสถานที่ดังกล่าว พร้อมทั้งไม่พบชายไทย ที่อ้างว่าร่วมกันปล้นทรัพย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงหาตัวนายเคนี่ไปที่ห้องพัก และสิ่งของต่างที่แจ้งว่าโดนปล้นทรัพย์ไป จากนั้นจึงพากลับมาสอบสวนที่สถานีตำรวจ เมื่อนายเคนี รู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าไม่มีเหตุเกิดขึ้นจริง จึงได้ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าในความเป็นจริงไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่เนื่องจาก ไม่ทราบว่าตนเองนำคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คไว้ที่ใด จึงเดินทางมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำเอาเอกสารแจ้งความจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเบิกเงินกับบริษัทประกันที่ประเทศของตนเอง

 
จากพฤติการณ์ข้างต้น คดีจึงมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าผู้ต้องหากระทำความผิด เกรงว่าจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจฯจึงแจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมผู้ถูกจับ ด้วยเหตุแห่งการจับ โดยไม่มีหมายจับตามป.วิ.อาญา มาตรา 78(3)ประกอบมาตรา66(2) พร้อมด้วยของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินการตามกฎหมาย
ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน