เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรอำเภอปาย สนธิกำลังกับ ทหาร ตชด.และฝ่ายปกครองอำเภอปาย เร่งดำเนินการตัดฝิ่น ที่มีการลักลอบปลูกตามเทือกเขาติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา สามารถทำลายต้นฝิ่นได้เป็นจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. พ.ต.อ.วรพล พลมณี ผกก.สภ.ปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติงานในการตัดทำลายไร่ฝิ่นว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค. เวลาประมาณ 09.00-12.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.ปาย โดยพ.ต.ท. บรินทร์ ใจอุตม์ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอปาย โดยนายภูรีภัทร พิพัฒน์พงศธร พร้อมพวก เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.752, ตชด.ร้อย 336 ปางหมู ตัดทำลายพื้นที่ปลูกพืชฝิ่นจำนวน 4 แปลง โดยแปลงที่ 1 บริเวณป่าทิศเหนือหมู่บ้านป่าซาง หมู่ที่ 6 ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่บนพิกัด MB 411673 จำนวน 2 งาน ของกลางพืชฝิ่น น้ำหนัก 10 กิโลกรัม

แปลงที่ 2 บริเวณป่าทิศเหนือหมู่บ้านป่าซาง หมู่ที่ 6 ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่บนพิกัด MB 412673 จำนวน 2 งาน ของกลางพืชฝิ่น น้ำหนัก 10 กิโลกรัม แปลงที่ 3 บริเวณป่าทิศใต้หมู่บ้านปายสองแง่ หมู่ที่ 4 ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่บนพิกัด MB 414673 จำนวน 1 งาน ของกลางพืชฝิ่น น้ำหนัก 10 กิโลกรัม และแปลงที่ 4 บริเวณป่าทิศใต้หมู่บ้านปายสองแง่ หมู่ที่ 4 ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่บนพิกัด MB 415673 จำนวน 2 งาน ของกลางพืชฝิ่น น้ำหนัก 10 กิโลกรัม

โดยเจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึด สนธิกำลังเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ปลูกฝิ่นบริเวณป่าทิศเหนือหมู่บ้านป่าซาง หมู่ที่ 6 และ บริเวณป่าทิศใต้หมู่บ้านปายสองแง่ หมู่ที่ 4 ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่บนพิกัดที่ 1 MB 411673 จำนวน 2 งาน, พิกัดที่ 2 MB 412673 จำนวน 2 งาน, พิกัดที่ 3 MB 414673 จำนวน 1 งาน ,พิกัดที่ 4 MB 415673 จำนวน 2 งาน พบว่ามีการลักลอบปลูกฝิ่น ทั้ง4 แปลง มีพืชฝิ่นสูงประมาณ 120 เซนติเมตร ถึง 130 เซนติเมตร ลักษณะพืชฝิ่นบางส่วนออกดอก บางส่วนออกผล และ บางส่วนมีร่องรอยการถูกกรีดเก็บเกี่ยวน้ำยางฝิ่นไปบ้างแล้ว

แต่เนื่องด้วยเส้นทางจากที่เกิดเหตุไปยัง สภ.ปาย เป็นเส้นทางทุรกันดารและภูเขาสูงชันสลับซับซ้อนจำนวนมากไม่สามารถจะนำพืชฝิ่น ของกลางทั้งหมดไปยังสภ.ปายได้ จึงนำฝิ่น เท่าที่จะสามารถนำไปได้เป็นของกลาง ประกอบการดำเนินคดี

ส่วนพืชฝิ่นที่เหลือ ร่วมกันตัดฟันทำลายในที่เกิดเหตุทั้งหมด ขณะตรวจยึดไม่พบผู้หนึ่งผู้ใดอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำผิดแต่อย่างใด จึงนำของกลาง คือฝิ่นทั้ง 4 แปลง แปลงละ 10 กิโลกรัม รวมน้ำหนักประมาณ 40 กิโลกรัม ส่งพงส.สภ.ปาย เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดรายนี้มาดำเนินคดีในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชฝิ่น) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, ผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชฝิ่น) โดยผิดกฎหมาย” เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน