จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวนำเสนอข่าวด.ช.พรพรหม ม่วงอ่อน หรือน้องจ่อย อายุ 5 ขวบ ป่วยเป็นโรคภูมิปราสาทลำไส้ไม่ทำงาน อาศัยอยู่กับนายเดชา ม่วงอ่อน อายุ 54 ปี และนางถาวร ม่วงอ่อน อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นตายาย เพราะพ่อแม่ได้เลิกรากันนานแล้ว และให้น้องจ่อยอยู่กับตายาย นานครั้งจะกลับมาบ้านครั้งหนึ่ง โดยทั้งหมดอยู่บ้านเลขที่ 129 ม. 13 บ้านโชคชัย ต.ตรวจ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์

โดยน้องจ่อยมีอาการตั้งแต่อายุได้ 6 เดือน เริ่มเกิดอาการท้องอืด ขับถ่ายไม่ออก ตายายจึงได้พาไปหมอที่ รพ.หมอได้ทำการสวนทวารให้ จนเด็กกลับมาเป็นปกติ แต่ต่อมาไม่นานก็เกิดอาการแบบเดิมอีก และรุนแรงขึ้น ท้องเริ่มบวมใหญ่ขึ้นมา แพทย์ได้ทำการรักษาและผ่าตัดลำไส้ให้ตอน อายุได้ 1 ขวบ 4 เดือน ปัจจุบันน้องจ่อย อายุ 5 ขวบ ผ่าตัดมาแล้ว 3 ครั้ง ต้องให้อาหารทางเส้นเลือดดำ ขับถ่ายทางหน้าท้องที่ทางแพทย์ได้เจาะไว้ให้ และต้องคอยดูแลให้สารอาหารและน้ำเกลืออย่างใกล้ชิตตลอดเวลา

ทำให้คุณตาที่ทำงานเป็นลูกจ้างอบต.ตรวจแทบไม่ได้ทำงานเพราะต้องเทียวรับเทียวส่งหลานชายไปโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ที่กทม. แพทย์จะนัดให้ไปตรวจรักษาทุกเดือน ก็จะต้องเดินทางไปรักษาครั้งหนึ่ง และจะนัดเฉพาะวันจันทร์กับวันพุธ ทำให้ตายายต้องลำบากเสียค่าใช้จ่ายทั้งการเดินทาง การพักและกินอยู่ต่างๆทำให้เงินที่สะสมมาค่อยๆหมดไป และเริ่มลำบากมากขึ้น ขณะที่คุณตาคุณยาย ต่างขอวอนผู้ใจบุญให้ช่วยเหลือ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วตั้งแต่กันยายน 2559

ล่าสุดวันที่ 26 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านของน้องจ่อยอีกครั้ง พบว่ามียอดเงินบริจาคเพิ่มขึ้นรวมเงินบริจาคทั้งหมดกว่า 1.8 ล้านบาท ซึ่งนายเดชาได้ใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ประชาชนบริจาคมาอย่างคุ้มค่า เกี่ยวกับการดูแลรักษาน้องจ่อย โดยไม่ได้เอาไปใช้ในเรื่องส่วนตัวแต่อย่างใด และทำบัญชีรายจ่ายไว้ในสมุดบันทึกอย่างต่อเนื่อง สามารถตรวจสอบได้

ทั้งการใช้จ่ายในการเดินทางนำตัวน้องจ่อยไปรักษาตามที่แพทย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ที่ กทม.นัดทุกเดือน แต่ละครั้งใช้เวลาไปรักษาหลายวัน รวมทั้งค่าอาหารต่างๆของน้องจ่อย และได้มีการซื้อเครื่องให้สารอาหารในราคา 4.5 หมื่นบาท เพื่อไว้ให้อาหารน้องจ่อยทางสายยาง ไม่ต้องยืมหน่วยแพทย์มาใช้เหมือนก่อน ปัจจุบันเหลือเงินในบัญชีจำนวน 1,521,662 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนสองหมื่นหนึ่งพันหกร้อยหกสิบสองบาท)

ขณะที่น้องจ่อยมีอาการดีขึ้นตามลำดับ มีอารมณ์ดี แถมยังให้คุณตาดีดกีตาร์ เพื่อให้น้องจ่อยร้องเพลง “คู่คอง” ที่กำลังดังให้ฟังกันแบบสดๆอีกด้วย ซึ่งน้องจ่อยก็สามารถร้องเพลงได้ไพเราะอีกด้วย เป็นภาพที่น่ารักและน่าประทับใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง

นายเดชากล่าวว่า เงินบริจาคทั้งหมดประมาณ 1.8 ล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวก็จะใช้ในการรักษาน้องจ่อยอย่างเต็มที่ ต้องพาน้องจ่อยไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ที่กทม.ตามหมอนัดทุกเดือน ไปแต่ละครั้งก็ใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน ซึ่งตนก็ได้ซื้อเครื่องใส่สารอาหารให้น้องจ่อยในราคา 4.5 หมื่นบาท ต้องขอขอบคุณผู้ใจบุญทั่วประเทศที่ช่วยเหลือน้องจ่อย ให้น้องมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมที่ลำบาก เงินทุกบาททุกสตางค์ตนจะใช้เพื่อดูแลรักษาน้องจ่อยอย่างเดียว ตอนนี้ร่างกายน้องก็ดีขึ้น สดชื่นขึ้น หมอมีการเปลี่ยนสารอาหารใหม่ๆทุกเดือน เพื่อให้ร่างกายได้มีการปรับตัวในทางที่ดีขึ้นตามลำดับ

ทั้งนี้หากผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือน้องจ่อยเพิ่มเติม ก็สามารถโอนเงินช่วยเหลือมาได้ที่ บัญชีธนาคาร กรุงไทย สาขาศีขรภูมิ ชื่อบัญชี นายเดชา ม่วงอ่อน เลขที่บัญชี 3310065464 หรือติดต่อสอบถามมาได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ตาของน้องจ่อย 091-8284410

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน