กรณี ด.ช.ซูลุยผิว อายุ 2 ขวบ ชาวเมียนมา หายไปในไร่อ้อย หมู่ 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพี่สาววัย 3 ขวบร้องไห้วิ่งมาบอกมีผู้ชายพาตัวไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ระดมหาตัวก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบแต่อย่างใด ขณะเดียวกันญาติก็ได้หันหน้าไปพึ่งไสยศาสตร์ หวังว่าจะพบตัวในเร็ววัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 ธ.ค. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.ตชด. พร้อม นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผวจ.สุพรรณบุรี, แพทย์หญิงสมพิศ จำปาเงิน ผอ.รพ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี และมูลนิธิกระจกเงา ร่วมกับประชุมภารกิจค้นหา ด.ช.ซูลุยผิว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของการค้นหาตำรวจตระเวนชายแดนกว่า 20 นาย ลงพื้นที่ในป่ากกหลังไร่อ้อย ที่มีพื้นที่กว่า 100 ไร่ หลังจากสันนิษฐานในประเด็นการฆาตกรรมอำพรางศพนำมาโยนทิ้งไว้ในป่า ซึ่งจากการลงพื้นที่บริเวณป่ากกพบว่ามีบ่อน้ำลึกประมาณ 1 เมตรครึ่ง เมื่อเข้าไปด้านในพบว่าเป็นป่ากกขนาดสูงกว่า 3 เมตร ไม่พบว่ามีกลิ่นเหม็น หรือร่องรอบของการฆาตกรรมแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังได้นำเฮลิคอปเตอร์จากกองบินตำรวจขึ้นบิน เพื่อสังเกตการณ์ด้วย

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของวันนี้ได้นำทีมตำรวจตระเวนชายแดนกว่า 100 นาย พร้อมกับสุนัขค้นหาเข้าร่วมภารกิจในการค้นหาในครั้งนี้ด้วย โดยวันนี้จะมีการประชุมแบ่งโซนรับผิดชอบกันอย่างชัดเจน โดยจะแบ่งเป็น 3 วงรอบ วงที่ 1 คือ จุดที่หายไปและคาดว่าจะพลัดหลงเข้าไป ส่วนหน่วยงานที่รับผิดชอบจะเป็นตำรวจตระเวนชายแดน เนื่องจากพื้นที่เป็นป่ากก ไร่อ้อย ตำรวจตะเวนชายแดนมีความชำนาญในการฝึกฝนลักษณะนี้ ส่วนวงที่ 2 และ 3 จะมีการกระจายกำลังในการรับผิดชอบอย่างทั่วถึง

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวอีกว่า ในการของการสืบสวนยังไม่ได้มีการตัดประเด็นใดออก ไม่ว่าจะเป็นพลัดหลง อุบัติเหตุ หรือ การลักพาตัว โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามสอบปากคำพยาน ด.ญ.วัย 3 ขวบ ที่เป็นคนเห็นน้องเป็นคนสุดท้าย แต่การสอบพยานค่อนข้างมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เพราะ ด.ญ.วัย 3 ขวบ ไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ จึงทำให้การสอบปากคำลำบากมากขึ้น ขณะนี้ได้ประสานงานกับนักจิตวิทยาและล่าม ที่สามารถคลุกคลีกับเด็กได้มาสอบถามข้อเท็จจริง เพราะปกติ เด็กส่วนใหญ่จะไม่กล้าพูดคุยกับคนแปลกหน้า ซึ่งคาดว่าเด็กหญิงอาจจะยังไม่บอกข้อเท็จจริงทั้งหมด

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“จากการสันนิษฐานคาดว่า เด็กทั้งคู่อาจจะเล่นซ่อนแอบตามประสาเด็กทั่วไป และอาจจะไปแอบในที่ลับตาทำให้พลัดหลงกันก็ได้ เพราะปกติแล้วหากเด็กทำความผิด ก็อาจจะไม่กล้าพูดความจริง เพราะกลัวพ่อแม่จะตี ซึ่งหลังจากนี้เราจึงต้องพยายามพูดคุยกับน้อง เพื่อให้น้องค่อยๆ เล่าข้อเท็จจริงร่วมกับการวางแผนไปด้วย” พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าว

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะประสานงานชุดสืบสวนที่มีฝีมือดีเข้ามาร่วมช่วยกันวางแผนด้วย ซึ่งขณะนี้ได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 30 ปาก นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานเอกชน ได้ติดต่อจะนำเครื่องโซน่า ซึ่งเป็นเครื่องสแกนค้นหาวัตถุใต้น้ำมาสแกนอีกด้วย

ด้าน แพทย์หญิงสมพิศ กล่าวว่า โดยปกติแล้ว เด็กที่เกิดจากตรงนี้ จะมีความแข็งแรงอยู่แล้ว คาดว่าหากพลัดหลงจริงๆ เด็กจะสามารถหาอ้อยกินได้ เพราะอ้อยมีน้ำตาล หากกินแล้ว จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้

รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้ทางทีมสูบน้ำท่อซิ่งจาก จ.นครปฐม ได้ประสานงานมาทาง ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทันที โดยทางทีมสูบน้ำท่อซิ่ง ได้มีการเตรียมพร้อมที่จะเข้าร่วม ภารกิจค้นหาเด็กชายวัย 2 ขวบ ในครั้งนี้ด้วย


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน