ฮือฮาอีกครั้ง! เต่ามะเฟือง ขึ้นวางไข่บนชายหาดท้ายเหมือง จ.พังงา ห่างจากจุดเดิมประมาณ 30 กม. คาดมีไข่เต่าไม่เกิน 100 ฟอง อธิบดี ทช. ลงพื้นที่พร้อมเปิดศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ 24 ชม. พร้อมติดกล้องวงจรปิด-กั้นรั้ว วอนประชาชนช่วยดูแลเและลดขยะ
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ให้สัมภาษณ์ขณะเดินทางมาเป็นประธานเปิดศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟืองว่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทช. ได้รับแจ้งว่าพบแม่เต่ามะเฟืองขนาดใหญ่ 1.25 เมตร ขึ้นมาวางไข่บนชายหาดคึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ที่ด้านหน้าโรงแรมเขาหลัก ออร์คิด 93 ฟอง จึงสั่งการให้ติดป้ายห้ามบุคคลเข้าใกล้ก่อนได้รับอนุญาต เพื่อไม่ให้ไข่เต่าได้รับการรบกวนจากคนหรือสัตว์
นายจตุพร กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ในช่วงเช้าเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับรายงานจาก นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (จ.ภูเก็ต) ว่าพบรอยเดินเต่าทะเลขึ้นวางไข่ บริเวณชายหาดอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ห่างจากจุดที่พบเต่ามะเฟืองวางไข่ในครั้งแรกประมาณ 30 กิโลเมตร
“จึงสั่งการให้นักวิชาการจากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน และสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบหลุมไข่เต่ามะเฟืองและร่องรอยการขึ้นมาวางไข่ จากการวัดความกว้างระหว่างปลายขาคู่หน้ามีความยาว 160 เซนติเมตร ความกว้างช่วงอก 100 เซนติเมตร หลุมไข่เต่ามีความลึก 75-110 เซนติเมตร มีไข่เต่า 80-100 ฟอง เจ้าหน้าที่จึงทำการฝังไข่เต่าไว้ที่เดิมและได้ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิเพื่อติดตามการพัฒนาการของไข่เต่า” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวอีกว่า กรมฯ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการดูแล อนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล และสัตว์ทะเลหายาก จึงเปิดศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง โดยมีมาตรการเฝ้าระวังไข่เต่ามะเฟือง มีการกั้นรั้วด้วยไม้ไผ่ความสูง 1.5×1.5 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ตามธรรมชาติเข้าไปรบกวนภายในบริเวณฟักไข่ และป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปใกล้หรือขโมยไข่เต่า พร้อมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) และร่วมมือกับท้องถิ่นเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 2 เดือน ในการจัดกำลังเฝ้าติดตามการวางไข่ครั้งต่อไป
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายจตุพร กล่าวว่า ทั้งนี้ หลุมไข่ดังกล่าวเมื่อเปรียบเทียบกับการขึ้นวางไข่ที่หาดคึกคักเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่าอยู่ในช่วงกำหนด 10 วันของการขึ้นมาวางไข่อีกครั้ง จึงอาจเป็นไปได้ว่าเต่ามะเฟืองตัวดังกล่าวนี้จะเป็นตัวเดียวกัน แต่เมื่อดูข้อมูลระยะทางที่ห่างมากกว่า 30 กิโลเมตร และความกว้างร่องอกที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย ก็อาจเป็นไปได้ที่จะเป็นเต่ามะเฟืองคนละตัวกับที่ขึ้นมาวางไข่ในพื้นที่ชายหาดคึกคัก
อธิบดี ทช. กล่าวอีกว่า จากสถิติการพบเต่ามะเฟืองครั้งล่าสุด มีรายงานการขึ้นมาวางไข่บริเวณหาดท้ายเหมืองเมื่อประมาณ 6 ปีที่ผ่านมา ซึ่งกรมฯ และกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการเก็บขยะทะเล ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เต่าเข้าใจผิดนึกว่าเป็นแมงกะพรุน และกินเข้าไปทำให้เต่าเสียชีวิตอยู่เป็นประจำ จึงทำให้ปริมาณเต่ามะเฟืองลดลงอย่างรวดเร็ว บางพื้นที่เคยมีเต่ามาวางไข่เป็นจำนวนมาก
นายจตุพร กล่าวต่อว่า แต่ในปัจจุบันนี้เหลือลดน้อยลงกว่าเดิม โดยเต่ามะเฟืองเป็น 1 ในว่าที่สัตว์สงวนของไทยที่ยังคงจ่อคิวรอการแก้ไขกฎหมายสัตว์สงวนสัตว์คุ้มครอง ดังนั้นเต่ามะเฟืองจึงเป็นสัตว์ที่หายากที่สุด และเป็นสัตว์ที่แทบจะหมดหวังในการพบเจอ อีกทั้งหลังจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2547 พบเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่น้อยมากและมีแนวโน้มใกล้จะสูญพันธุ์ เนื่องจากเต่ามะเฟืองจะวางไข่น้อยและเว้นช่วงนาน รวมทั้งมีขยะทะเลและเครื่องมือการทำประมงหลายชนิดที่ส่งผลกระทบต่อการเข้ามาผสมพันธุ์เพื่อวางไข่ของเต่า
“การพบเจอเต่ามะเฟืองในครั้งนี้นับว่าเป็นความโชคดีที่ทรัพยากรธรรมชาติกลับฟื้นคืนมาจนทำให้พบเต่ามะเฟืองขนาดใหญ่ขึ้นมาวางไข่บริเวณชายหาดเขาหลักและชายหาดท้ายเหมือง จึงขอฝากเน้นย้ำให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการปกป้อง ดูแลไข่เต่ามะเฟืองไม่ให้คนหรือสัตว์เข้าไปรบกวน อีกทั้งร่วมกันลดการใช้พลาสติกในพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเล เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบนิเวศทางทะเล และสัตว์ทะเลหายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์อย่างเต่ามะเฟืองอีกด้วย” นายจตุพร กล่าวทิ้งท้าย