เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 22 ก.ย.59 พ.ต.ท.ปัญญา เหล็กดี สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งรถพ่วงบรรทุกน้ำมันปาล์มดิบรั่วไหลไปตลอดทางเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร ทำให้จักรยานยนต์ที่ตามมาลื่นเสียหลักพลิกคว่ำหลายคันและบาดเจ็บหลายราย บนถนน ถนนกาญจนาภิเษก ทางหลวงวงแหวนตะวันตก หมายเลข 9 กม.ที่ 53 มุ่งหน้าบางปะอิน ต.คลองพระอุดม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมนายโสภณ สังข์แป้น รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนนทบุรี และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเพื่อช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุพบรถพ่วงยี่ห้อฮีโน่สีแดง บรรทุกน้ำมันปาล์มดิบ หมายเลขทะเบียน 70-9336 นครปฐม ตัวลูกพ่วงหมายเลขทะเบียน 70-3634 นครปฐม ที่บริเวณวาวเปิดปิดก๊อกถังน้ำมันหัก ทำให้น้ำมันไหลออกมานองพื้นถนนตลอดทาง คนขับชื่อ นายศิริ สวัสดี อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 15/9 หมู่ 17 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ท้ายรถพ่วงพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอลด้าเวฟสีขาว หมายเลขทะเบียน 1กจ8003 ลพบุรี ลื่นไถลชนท้ายรถพ่วงสภาพรถจักรยานยนต์ด้านหน้าพังเสียหาย คนขับชื่อนายสุริยะ ทับทอง อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 64 หมู่ 6 ต.ท้ายห้วยแก้ว อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี บาดเจ็บที่ลำตัวเล็กน้อยเนื่องแรงกระแทก
ด้านนายสุริยะ ทับทอง ผู้บาดเจ็บกล่าวว่า ตนเองขับรถจักรยานยนต์พึ่งจะกลับจากเลิกงาน โดยขับมาบนถนนเห็นน้ำนองอยู่ คิดว่าเป็นน้ำฝนเนื่องจากช่วงนี้ฝนตกประจำตนเองถึงขับมาปกติ จากนั้นเสียหลักไถลไปชนกับท้ายรถพ่วงที่อยู่ด้านหน้า ตนเองจึงบาดเจ็บเล็กน้อย โชคดีที่ไม่ได้ขับมาด้วยความเร็ว
ส่วนนายศิริ สวัสดี คนขับรถพ่วงบรรทุกน้ำมันกล่าวว่า ขณะที่ตนเองขับรถบรรทุกน้ำมันปาล์มจำนวน 30 ตัน จากสมุทรปราการ จะไปส่งโรงงานน้ำมันพืชที่ อ.ลาดหลุมแก้ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนขับรถสิบล้อตะโกนบอกว่า มีน้ำมันรั่ว จากนั้นจึงชะลอรถแล้วชิดซ้ายถนน เพื่อที่จะสำรวจดู จึงพบว่าวาวเปิดปิดก๊อกถังน้ำมันหัก และตรวจดูระดับน้ำมันพบว่าน้ำมันรั่วหายไป 5 ตัน คาดว่ามีรถเก๋งปาดหน้าตนจึงหักหลบจนตกหลุมทำให้วาวก๊อกถังน้ำมันหักทำให้น้ำมันรั่วมาตลอดทาง ต่อมามีรถจักรยานยนต์ลื่นไถลมาชนท้าย
ทางด้านพ.ต.ท.ปัญญา เหล็กดี สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ต่อมานายโสภณ สังข์แป้น รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนนทบุรี ได้รับแจ้งว่าบริเวณฝั่ง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้มีรถจักรยานยนต์ลื่นไถลพลิกคว่ำหลายคันและมีผู้บาดเจ็บหลายรายจากคราบน้ำมันบนถนน จึงได้เข้ามาที่เกิดเหตุพร้อมนำทรายละเอียดมาเทซับคราบน้ำมันบนพื้นถนนโดยมีเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงและอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งช่วยโกยทรายตั้งแต่ กม.ที่ 38 ถึง กม.ที่ 53 เป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร เพื่อไม่ให้รถคันอื่นที่ใช้ถนนเกิดอุบัติเหตุตามมา.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน