สถ.กำชับอปท.ทั่วประเทศ ร่วมลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงปีใหม่

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ( สถ. ) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศการปีใหม่ พ.ศ.2562 ซึ่งจะมีวันหยุดราชการติดต่อกันหลายวัน และเป็นช่วงที่ประชาชนใช้รถใช้ถนนเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่สร้างความสูญเสียต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชนสูงกว่าในช่วงเวลาปกติ กรมฯ จึงขอให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ ร่วมสนับสนุนและร่วมดำเนินการ ตามแนวทางการดำเนินงานของ “แผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2562” ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2561 – 2 มกราคม 2562

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

สำหรับแนวทางในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนนั้น ได้ขอให้ อปท. ทุกแห่งลดปัจจัยเสี่ยงด้านคน โดยให้ประสานสถานีตำรวจและหน่วยทหารในพื้นที่ เพื่อบูรณาการจัดตั้งจุดตรวจ/จุดบริการประชาชน/ด่านชุมชน และการจัดสายตรวจสุ่มตรวจตามเส้นทางสายหลัก (ทางหลวงแผ่นดิน) สายรอง (ทางหลวงชนบท/ถนนของ อปท. และหน่วยงานอื่น) และในสถานที่ชุมชนหรือบริเวณด้านหน้าสถานบันเทิง เพื่อเป็นการป้องปรามการฝ่าฝืนหรือการกระทำความผิด ตามมาตรการ 1ร. 2ส. 3ข. 4 ม. (10รสขม) ได้แก่ 1.ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2.ขับรถย้อนศร 3.ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร 4.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 5.ไม่มีใบขับขี่ 6.แซงในที่คับขัน 7.เมาสุรา 8.ไม่สวมหมวกนิรภัย 9.ขับขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย และ 10.ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ

นอกจากนั้น ยังขอให้ อปท. ทุกแห่ง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ศปถ.อปท.) เพื่อดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางถนน รวมถึงให้ อปท. ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) อาสาสมัครทางหลวงชนบท (อส.ทช.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ตำรวจบ้าน ทหาร และประชาชนในพื้นที่ จัดตั้ง “ด่านชุมชน” เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนของคนในพื้นที่

โดยให้ดำเนินจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดทำ “ประชาคมชุมชน/หมู่บ้าน” กำหนดข้อปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางถนน,การจัดกิจกรรมทางศาสนา “1 อำเภอ 1 กิจกรรม” เช่น ทำบุญตักบาตร สวดมนต์ข้ามปี และขอความร่วมมือจากผู้นำในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์โดยใช้รูปแบบ “เคาะประตูบ้าน” เพื่อสร้างความตื่นตัวให้แก่ประชาชนในการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไปจนถึงทำการรณรงค์ประชาสัมพันธ์และสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยทางถนน เผยแพร่ผ่านหอกระจายข่าว เสียงตามสาย และวิทยุชุมชน เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนรับทราบถึงมาตรการบังคับใช้กฎหมายที่จะดำเนินการในช่วงเทศกาลปีใหม่

อธิบดี สถ. กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันก็ขอให้ อปท. ทุกแห่ง กำชับให้ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานเจ้าหน้าที่รัฐ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีด้านวินัยจราจรในการปฏิบัติตามกฎหมายตามมาตรการ 4 ห้าม 3 ต้อง (ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เมาไม่ขับ โทรไม่ขับ ง่วงไม่ขับ การสวมหมวกนิรภัย การคาดเข็มขัดนิรภัย ต้องมีใบอนุญาตขับรถ) และหากมีคำสั่งให้บุคลากร ของ อปท. ปฏิบัติหน้าที่ประจำในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 เช่นที่ด่านตรวจ ด่านชุมชน ณ จุดที่มีการเฉลิมฉลอง ผู้ปฏิบัติหน้าที่ต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ และให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด

และด้านการลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม ก็ได้ขอให้ อปท. ทุกแห่งดำเนินมาตรการ “1 ท้องถิ่น 1 ถนนปลอดภัย” ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด จริงจัง และต่อเนื่อง โดยในถนนเส้นนี้ ขอให้ อปท.สำรวจและตรวจสอบลักษณะทางกายภาพของถนน จุดเสี่ยง จุดอันตราย จุดที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง และจุดที่เกิดอุบัติเหตุใหญ่ ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมถนนให้มีความปลอดภัย,ให้จัดเตรียมช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) ทางเลี่ยง ทางลัด และจัดทำป้ายเตือน ป้ายแนะนำต่างๆ ให้ชัดเจน ขอให้จัดจุดพักรถ และจุดบริการเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน, ให้ตรวจสอบสิ่งอันตรายข้างถนน (Roadside Hazards) อาทิ ระบบไฟฟ้าส่องสว่าง สัญญาณไฟจราจร เสาป้ายโดยปรับปรุงแก้ไขให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

ทางด้านมาตรการด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุนั้น ให้ อปท. เตรียมความพร้อมของหน่วยกู้ชีพและกู้ภัยในความรับผิดชอบ ด้านบุคลากร เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ กำหนดให้มีทีมกู้ชีพฉุกเฉินระดับท้องถิ่น อำเภอ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเหมาะสม ไปจนถึงการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประสบเหตุ ได้ทราบถึงระบบการช่วยเหลือต่างๆ ที่สมควรได้รับ เช่น ในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต ประชาชนมีสิทธิเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ในช่วงเวลา 72 ชั่วโมงแรก ตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่”, การจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายใน 24 ชั่วโมง เป็นต้น อธิบดี สถ.กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน