คุณยายป่วยติดเตียง อาการทรุดที่ศูนย์ผู้อพยพพายุปาบึกก่อนสิ้นใจ
คุณยายป่วยติดเตียง – ผู้สื่อข่าวรายงานความสูญเสียจากเหตุพายุปาบึกพัดผ่านพื้นที่ภาคใต้ของไทยว่า ที่บ้านเลขที่ 118 /1 หมู่ที่ 12 บ้านหัวแหลม ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ชาวบ้านในหมู่บ้านมาช่วยกันเตรียมการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ นางแฉล้ม สุขผ่อง อายุ 91 ปี ที่เสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ท่ามกลางความโศกเศร้าของ ลูกๆ หลานๆ และ ญาติพี่น้อง
นางศรีอุบล กุลาเลิศ อายุ 53 ปี ลูกสาวของนางแฉล้ม เล่าว่า เช้าเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ม.ค.2562 เจ้าหน้าที่ทางราชการ หลายหน่วย อาทิ ทหาร เจ้าหน้าที่อำเภอ มาช่วยกันอพยพชาวบ้าน ในหมู่บ้าน ไปยังศูนย์อพยพของตำบล บางมะพร้าว ที่ตั้งอยู่ที่ วัดบรรพตวิสัย หรือ วัดในเขา ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 4 ก.ม.
นางศรีอุบลเล่าถึงเหตุการณ์สูญเสียแม่
ในที่นี้รวมถึงคุณยายแฉล้ม ผู้ผู้ป่วยติดเตียงจากอาการสะโพกหัก แต่ยังรู้สึกตัวเป็นปกติ กินอาหารได้ ทางเจ้าหน้าที่บอกยายแฉล้มว่าจะพาไปเที่ยว ยายแฉล้มก็พยักหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อไปที่ศูนย์อพยพ ซึ่งมีคนจำนวนมาก หลายร้อยคน มีทั้งแรงงานต่างด้าว ชาวไทย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จึงมีเสียงดังตามสภาพ แต่ก็ทำให้ยายแฉล้มนอนไม่หลับ
จากนั้นเพียงคืนเดียว ช่วงเช้าวันที่ 5 หลังจากป้อนข้าว ยายแฉล้มมีอาการน้ำลายไหลพูมปาก และ สิ้นสติไม่รู้สึกตัว จึงรีบนำส่ง ร.พ.ปากน้ำหลังสวน และเพียง 2 ชม. ก็ต้องส่งต่อไปยัง ร.พ.ชุมพร กระทั่งเสียชีวิต ในวันที่ 6 ม.ค.ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด จากแผลกดทับด้านหลัง
นางศรีอุบลกล่าวต่อด้วยความสะเทือนใจที่สูญเสียแม่ว่า ยายแฉล้มอายุมาก คงเหนื่อยมากในช่วงของการอพยพ อีกทั้งเมื่อแผลกดทับติดเชื้อ และนอนไม่หลับ คงทำให้เสียชีวิตได้
ส่วนชาวบ้านคนอื่นๆ ให้ความเป็นว่า ถ้ามีเหตุการณ์ต้องอพยพอีก ในส่วนของผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ควรจะมีการแยกไปพักในสถานที่เฉพาะ ทั้งที่พัก และอาหารการกิน ไม่เช่นนั้นมีโอกาสที่ชาวบ้านต้องสูญเสียอย่างนี้ ถึงแม้ในครั้งนี้ทางราชการจะระมัดระวัง และ ดำเนินการป้องกันในชีวิตของชาวบ้านอย่างดี แต่ในจุดนี้เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขในอนาคต
ด้านนายสมพร ปัจฉิมเพชร รอง ผวจ.ชุมพร กล่าวว่า ได้ให้ภรรยาไปเยี่ยมยายแฉล้มที่โรงพยาบาล หลังหมดสติมาจากศูนย์อพยพ และพยายามดูแลอย่างดีที่สุดแล้ว ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ ยายแฉล้ม ด้วย และตนจะไปร่วมเป็นเจ้าภาพในงานบำเพ็ญกุศลศพ พร้อมจะได้แก้ไขถ้ากรณีต้องมีการอพยพชาวบ้านอีกในอนาคต
