วันที่10 ม.ค. ร.ต.ท.เมธัส ปัทมังสังข์ รองสารวัตร (สอบสวน) สน.สายไหม รับแจ้งเหตุมีรถยนต์ไล่ชนรถจยย. มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้า ร.พ.ภูมิพลฯ ถนนพหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ประพจน์ อนุศิริ รองผกก.สส.สน.สายไหม พ.ต.ท.อำนาจ กาหลง รองผกก.ป.สน.สายไหม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และสายตรวจ สน.สายไหม

ที่เกิดเหตุพบ รถจยย.ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์ สีแดง ทะเบียน 6กต 1827 กรุงทพมหานคร ล้มคว่ำอยู่กลางถนน ใกล้กันพบรถแท็กซี่ สีชมพู ทะเบียน ทห 8390 กรุงเทพมหานคร ส่วนที่เลนซ้ายพบรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว หมายเลขทะเบียน 6กฆ 1730 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย บริเวณด้านหน้ารถพบศพ นายไชยวัฒน์ สังข์เผือก อายุ 20 ปี สภาพศรีษะติดอยู่กับหน้าตัวรถ ห่างออกไป100 เมตร พบร่าง นายศิวะ สิงหภูกาม อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้ยังพบแผ่นป้ายทะเบียน 7กณ 4457 กรุงเทพมหานคร ตกอยู่เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นางสุจิตตรา สิงหภูกาม อายุ 45 ปี แม่ของนายไชยวัฒน์ เปิดเผยว่า ลูกชายตนและนายศิวะ เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ วันเกิดเหตุตนได้คุยกับลูกชายครั้งสุดท้ายเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.-00.00 น. ลูกชายได้ออกไปกดเงินมาให้ตน 300 บาท เป็นเงินค่าไปโรงเรียนหลาน จากนั้นทั้ง 2 คน ก็ขี่รถจยย.ออกไปข้างนอกโดยไม่บอกว่าไปไหน กระทั่งมาทราบว่าลูกถูกรถชนเสียชีวิตแล้ว ปกติลูกชายจะขายของอะไหล่แต่งรถจยย. ที่ตลาดพูนทรัพย์ จ.ปทุมธานี ส่วนนายศิวะ เป็นทหารเกณฑ์ และทั้ง 2 คน ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะอะไรกับใครมาก่อน

ด้าน ร.ต.ท.เมธัส เปิดเผยว่า ได้สอบปากขับ นายสุจิตร หมื่นศรี อายุ 37 ปี คนขับรถกระบะ ให้การอ้างว่า ขณะเกิดเหตุได้พบรถจยย. ของผู้ตายทั้ง 2 คน ขี่ย้อนศรมา โดยมีรถเก๋งสีดำ ขับตามมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่รถจยย.จะโดนชนท้าย ทำให้คนขี่และเห็นคนซ้อนกระเด็นตกจากรถ และถูกรถที่วิ่งสวนมาชนซ้ำ ก่อนที่คนนั่งโดยสารมากับรถเก๋ง จะลงมาทำร้ายร่างกายผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน แล้วขับรถหลบหนีไป ซึ่งหลังจากนี้จะนำทะเบียนรถที่ตกที่เกิดเหตุไปตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของเพื่อจะทำการเรียกมาสอบสวนเพิ่มเติม

ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้เชิญตัว นายชนินทร์ สุดนิมิตร อายุ 25 ปี เจ้าของป้ายทะเบียนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุมาสอบสวน พร้อมทั้งนำรถเก๋งมาสด้า 2 สีเทา-ดำ หมายเลขทะเบียน 7กณ 4457 กรุงเทพมหานคร มาให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) ตรวจสอบ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดย นายชนินทร์ อ้างว่า ตนเป็นพนักงานขายรถยนต์ย่านร่มเกล้า วันเกิดเหตุกำลังขับรถออกจากบ้านเพื่อนย่านวัชรพล เพื่อกลับบ้านย่านปทุมธานี เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุตนกำลังเบี่ยงเลนมาตามแท่งแบริเออร์ที่เจ้าหน้าที่กั้นไว้เพื่อทำทางรถไฟฟ้าระหว่างเลี้ยวมีรถจยย. ตามมาด้านหลังจนเกิดเหตุเฉี่ยวชน และรถจยย.ได้กระเด็นไปโดนรถยนต์ที่วิ่งสวนเลนมาทับ ก่อนที่ตนจะเห็นว่ามีคนขี่รถจยย. ประมาณ 2 คัน หนึ่งในนั้นลงมาแย่งของที่ผู้ตาย และทำร้ายร่างกายซ้ำก่อนจะขี่รถหลบหนีไป ตนเห็นว่ามีวัยรุ่นขับตามมากลัวถูกทำร้ายร่างกายจึงตัดสินใจขับรถหลบหนีไป

ทางด้าน พ.ต.ท.ธนู สุขเสริม รองผกก.(สอบสวน) สน.สายไหม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ใด โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนและรอผลตรวจพิสูจน์จากนิติเวช ขณะนี้ได้ให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี เพื่อจะแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำผิด ยืนยันว่าตอนนี้ไม่มีเรื่องเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แค่เป็นเรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุรถชนเท่านั้นแต่อาจจะเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ธรรมดา

รายงานข่าวแจ้งว่าจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ารถเก๋งมาสด้าสีดำ ได้ขับไล่รถจยย.ของผู้ตายมาตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสะพานใหม่ โดยรถคันดังกล่าวได้ขับชนแท่งแบริเออร์ ก่อนจะขับรถย้อนศรไล่รถจยย. มาตลอดเส้นทางถนนพหลโยธิน แล้วชนรถจยย. และมีชาย 1 คน ลงมาจากรถเข้าไปทำร้ายร่าง ก่อนจะกลับขึ้นรถยนต์หลบหนีไป ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าผู้ที่เป็นคนทำร้ายร่างกายชื่อนายเบียร์ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) อายุ 22 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน