เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 6 ก.พ.พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.สามารถ ศรีสิริวิบูลชัย รองผบก.จ.ปททุมธานี พ.ต.อ.สรัลพัฒน์ ยศสมบัติ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนบก.ภ.จ.ปทุมธานี และฝ่ายสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ร่วมกันจับกุมนายทศพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี พร้อมด้วยของกลาง เบ็ดตกปลา 2 คัน, รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ ทะเบียน 6 กฆ 2622 กรุงเทพมหานคร, เสื้อและกางเกงสีดำ 1 ชุด

 

พล.ต.ต.ถาวร กล่าวว่า เนื่องจากวันที่ 28 ม.ค. น.ส.กรกนก แก้วจันทร์ อายุ 20 ปี นักศึกษาสาวถูกคนนั่งตกปลาอยู่ข้างถนนเหวี่ยงสายเบ็ดไปถูกใบหน้า ขณะนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนชายผ่านมาบริเวณที่เกิดเหตุ โดยโดนเส้นเอ็นเบ็ดบาดหน้าจนได้รับบาดเจ็บ ภายหลังได้รับแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆที่คาดว่าผู้ก่อเหตุจะหลบหนีจนสามารถจับกุมตัวได้ ซึ่งวันนี้ผู้เสียหายและผู้ต้องหาได้พูดคุยแล้วตกลงเรื่องค่าเสียหายเป็นไปได้ด้วยดี ตนก็รู้สึกดีใจกับทั้ง 2 ฝ่ายที่ตกลงกันได้ด้วยดี

 

ส่วนน.ส.กรกนก ผู้เสียหาย กล่าวว่า อยากขอบคุณพล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.จ.ปทุมธานี และพ.ต.อ.สรัลพัฒน์ ยศสมบัติ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคน ที่ช่วยติดตามคดีของตน โดยทำงานอย่างเข้มแข็ง และโทรศัพท์บอกตนถึงความคืบหน้าของคดีตลอดเวลา รู้สึกดีใจว่าคดีเล็กๆขนาดนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีและอยากขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ได้ช่วยกันมาทำข่าวและแชร์ภาพของตนเอง ซึ่งเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนตกปลาอยู่ห้างถนนจะได้ใช้ความระมัดระวังกันด้วย

 

ส่วนนายทศพร รับสารภาพว่า วันเกิดเหตุไปนั่งตกปลากับเพื่อน 2 คน ซึ่งขณะนั้นปลาได้กินเบ็ด ตนได้ดึงปลาขึ้นมาจากน้ำ เป็นจังหวัดเดียวกันกับที่สายเบ็ดขาด และกระเด็นไปถูกหน้าของน้องผู้เสียหายที่ขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดีจึงทำให้ได้รับความบาดเจ็บ ตนอยากขอโทษและสำนึกผิดที่กระทำสิ่งที่ไม่ดีลงไป เมื่อเกิดเหตุได้คุยกับผู้เสียหาย และกลับไปที่บ้านเพื่อนำเงินมาให้เป็นค่ารักษาพยาบาล แต่กลับไม่เจอใคร และก็ไม่ได้มาติดต่อกับตำรวจอีกเลยจนมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว

 

ด้านพ.ต.อ.สรัลพัฒน์ กล่าวว่า แม้คดีนี้เป็นคดีเล็กน้อยแต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ให้ความสำคัญและติดตามจับกุมคนร้ายอยู่ตลอดเวลา จากการสอบถามผู้เสียหายแล้ว ไม่สามารถจดจำรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายได้ เจ้าหน้าที่จึงติดตามจากกล้องวงจรปิดจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ดังกล่าว หลังจากเกิดเหตุแล้วผู้ต้องหากับผู้เสียหายได้ตกลงค่าเสียหายแล้วพร้อมกับนัดเจอกัน แต่ผู้ต้องหาไม่มาตามที่ตกลงกันไว้ ทางผู้เสียหายจึงได้แจ้งความ ทั้งนี้คดีทุกคดี ผบช.ภาค 1 สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่ติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้ โดยให้ช่วยเหลือผู้เสียหายและประชาชนให้เต็มความสามารถ ให้สมกับการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน