ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า พบ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยเป็นครอบครัว 3 ลูกกำพร้า อยู่กับยาย ไร้ทุนการศึกษา หนี้ท่วม โดยได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.จันทภา หนูแก้ว หรือ น้องต้า อายุ 16 ปี บ้านเลขที่ 121 ม.4 ต.บ้านแก่ง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนตรอนตรีสินธุ์ พร้อมด้วยน้องต่างบิดาอีก 2 คน คือ ด.ญ.สโรชา หนูแก้ว อายุ 12 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ ด.ช.สมัชญ์ หนูแก้ว อายุ 8 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเดียวกัน

 

โดยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทั้ง 3 คน เป็นพี่น้องคนละพ่อ พ่อและแม่แยกทางกัน จึงอยู่กับยาย ก็ช่วยยายทำงานทุกอย่างที่ทำได้ กลับจากโรงเรียนก็ไปช่วยยายขายของ อุ่นน้ำจิ้มลูกชิ้น หาฟืน วันเสาร์-อาทิตย์ ก็ไปรับจ้างเก็บขยะ หาเงินมาช่วยแบ่งเบาภาระยาย และไปประกวดร้องเพลงรายการไมค์หมดหนี้ แต่ไม่ชนะ ได้เงินรางวัลมา 5,000 บาท และได้เงินบริจาคมาอีก 10,000 กว่าบาท ก็นำไปใช้หนี้ และช่วงปิดเทอมนี้จะไปฝึกร้องลิเก เพื่อรับจ้างหารายได้เพิ่มเติมด้วย

“แม่หายไปตอนไหนไม่รู้ รู้ตอนหลังว่าไปทำงานที่ภูเก็ต เมื่อปีกว่าที่ผ่านมา แต่หนูก็ไม่โกรธ เพราะคิดว่าแม่คงมีเหตุผล ส่วนที่แม่ไม่เคยส่งเงินมาดูแล เพราะแม่ก็คงไม่มีเหมือนกัน เมื่อ 3 เดือนก่อน แม่โทรมาหาบอกว่าเป็นมะเร็ง และบอกว่าจะกลับมาอยู่ด้วยกันวันที่ 10 ก.พ.นี้ หนูสงสารยายมาก ยายแก่แล้วแต่ต้องทำงานหนัก เพื่อเลี้ยงดูและส่งหนูทั้ง 3 คนเรียน บางวันก็ไม่มีเงินให้พวกหนูไปโรงเรียน หนี้ก็เยอะ กระโปรงนักเรียนที่ใส่ก็เก่า ซิปขาด แต่ก็ต้องใส่ไปสอบ ค่าเทอมก็ยังค้างโรงเรียนอยู่ น้องสาวหนูเคยเอายาเบื่อหนูใส่ในหม้อข้าว เพราะอยากให้ตายกันทั้งบ้าน จะได้จบปัญหาไป โชคดีหนูได้กลิ่นและเห็นข้าวเปลี่ยนสีเลยบอกยาย ถึงได้รอดกันมา ทุกวันนี้ก็มียายเป็นกำลังใจ อยากเรียนจบ แล้วเป็นทหารหญิง จะได้ดูแลยาย ดูแลน้อง และคนอื่นๆ ได้” น้องต้า เล่าทั้งน้ำตา

ด้าน นางมาลี หนูแก้ว อายุ 64 ปี ยายของเด็กทั้ง 3 คน กล่าวว่า สิ่งที่ทุกข์ใจที่สุดในตอนนี้คือหนี้สิน ทั้งหนี้นอกระบบ ที่ลูกสาวไปกู้แก๊งค์หมวกกันน็อคมาลงทุนเปิดร้านส้มตำ แต่ก็ไปไม่รอด ตนต้องใช้หนี้แทน ตอนนี้ยังค้างอยู่อีก 60,000 บาท หนี้ ธ.ก.ส. และหนี้สหกรณ์ รวมกันอีก 400,000 กว่าบาท ซึ่งกู้มาซ่อมแซมบ้าน และจัดงานศพแม่ สามี และลูกชาย รายได้ทุกวันนี้มาจากการขายลูกชิ้นปิ้ง และยำลูกชิ้น ได้วันละ 100 – 200 บาท บางวันขายไม่ดี ก็แทบไม่พอให้หลานไปโรงเรียน และยังมีหลานชายคนโตที่เป็นดาวน์ซินโดรม็น ที่ลูกชายทิ้งไว้ให้ช่วยเลี้ยง อีก 1 คนด้วย ทุกวันนี้ จึงเป็นทุกข์ใจมาก เพราะกลัวจะส่งเสียให้หลานเรียนจนจบไม่ไหว รถเข็นซึ่งเป็นอุปกรณ์ทำกินชิ้นสำคัญก็เก่าใกล้พัง หากพังก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร ทุกวันนี้ก็ใช้อย่างระมัดระวังที่สุด

สำหรับผู้ประสงค์ให้ความช่วยเหลือทุนการศึกษา หรือภาระหนี้สิน ครอบครัวของน้องต้า สามารถร่วมบริจาคได้ที่บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก ธนาคารออมสิน สาขาตรอน ชื่อบัญชี นางสุรางค์ แบบวา หรือ ด.ญ.จันทภา หนูแก้ว บัญชีเลขที่ 020066508274

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน