พญาครุฑ ไม้สักทองโบราณ หายไป 19 ปี จู่ๆ มีคนลึกลับ นำมาคืนที่เดิม เชื่อโดนอาถรรพ์

พญาครุฑ / วันที่ 18 ม.ค. นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีบุคคลลึกลับ ได้นำ พญาครุฑ แกะสลักจากไม้สักทอง อายุกว่า 100 ปี ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อ 19 ปี ก่อน นำมาฝากคืนไว้กับ นักการภารโรงที่กำลังทำความสะอาดอยู่ โดยพญาครุฑองค์ดังกล่าว ถูกติดตั้งไว้ที่หน้าบรรณของที่ว่าการอำเภอหลังเก่าที่มีการถูกรื้อถอนไป เพื่อก่อสร้างอาคารที่ว่าการอำเภอหลังใหม่เมื่อปี พ.ศ.2543 ซึ่งพญาครุฑองค์ดังกล่าว มีลักณณะกางปีก กว้างขนาด 36 นิ้ว สูง 30 นิ้ว เป็นพญาครุฑโบราณของคู่บ้านคู่เมืองชายแดน อ.แม่สอด ติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา

นายชัยพฤกติ์ กล่าวว่า หลังจากที่ พญาครุฑ ที่เป็นของสำคัญของ อ.แม่สอด หายไป ได้มีการออกติดตามค้นหาแต่ก็ไม่พบร่องรอยแต่อย่างใด จนเวลาผ่านไปนานถึง 19 ปี ปรากฏว่า มีบุคคลลึกลับได้นำมาฝากไว้ที่นักการภารโรงของอำเภอแม่สอดให้นำไปมอบกับนายอำเภอ ตนเองจึงได้นำมาทำความสะอาด นำน้ำมันมะกอกมาขัดถู และนำมาเก็บรักษาไว้ที่อาคารหลังใหม่ เพื่อให้ประชาชนมาศึกษาว่าพญาครุฑสมัยโบราณมีความศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขามอย่างไร เบื้องต้น ได้เตรียมทำตู้กระจกมาตั้งองศ์พญาครุฑไว้ในจุดที่เหมาะสมหน้าห้องนายอำเภอ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ขณะที่ นายสมาน สุทาคำ อายุ 55 ปี นักการภารโรงที่ทำงานอยู่คู่ที่ว่าการอำเภอแม่สอดมายาวนาน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามืดระหว่างที่ตนเองกำลังทำความสะอาดรอบที่ว่าการอำเภอแม่สอด จู่ๆก็มีคนสูงอายุนำถุงขนาดใหญ่เก็บห่อมิดชิดอย่างดี นำมาฝากที่ตนและบอกว่า ให้ช่วยนำไปฝากต่อให้นายอำเภอ เมื่อตนเปิดดูก็พบว่าเป็น พญาครุฑโบราณที่สูญหายไปเมื่อกว่า 19 ปีก่อน ตนจึงรีบนำไปมอบให้นายอำเภอตรวจสอบ

นายสมาน กล่าวต่อว่า ตนเองคิดว่าพญาครุฑองค์ดังกล่าว ได้มีคนหยิบฉวยไปช่วงรื้ออาคารหลังเก่า เพื่อนำไปครอบครองโดยไม่ถูกต้องไว้ที่บ้านและคงเกิดอาเพศหรือเจ็บป่วย หรือมีเหตุที่คาดไม่ถึงมาโดยตลอด จึงต้องนำมาคืนยังจุดเดิม

สำหรับครุฑหรือพญาครุฑนั้น ตามคติไทยโบราณเชื่อว่า ครุฑเป็นพญาแห่งนกที่เป็นพาหนะของพระนารายณ์เชื่อว่าปกติอยู่ที่วิมานฉิมพลี มีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ที่ได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ ก็ได้แต่เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า “สุบรรณ” ซึ่งหมายถึง “ขนวิเศษ”ครุฑเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ มีอานุภาพและพละกำลังมหาศาล แข็งแรง สามารถบินได้รวดเร็ว ทั้งยังมีสติปัญญาเฉียบแหลม เฉลียวฉลาด อ่อนน้อม ถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ น่าสรรเสริญ

ด้วยฤทธานุภาพของพญาครุฑนี้เอง จึงได้มีการสร้างรูป ครุฑพ่าห์ (หรือ พระครุฑพ่าห์) หมายถึง ครุฑซึ่งเป็นพาหนะ เป็นรูปครุฑกางปีก และใช้เป็นสัญลักษณ์หมายถึงพระราชบัลลังก์ และตราประจำแผ่นดินของไทย สืบต่อกันมาแต่สมัยอยุธยา ซึ่งพบโดยทั่วไป โดยเฉพาะตราประทับบนหัวจดหมายราชการ เรียกว่า ตราครุฑ ด้วยความเชื่อว่าพระมหากษัตริย์คือ สมมุติเทพ เป็นพระนารายณ์อวตาร ผู้ทรงมีครุฑเป็นพระราชพาหนะนั่นเอง

ด้วยเหตุนี้ พระราชพาหนะของพระมหากษัตริย์จึงประดับธงมหาราช ซึ่งเป็นธงรูปครุฑ ขณะเดียวกัน ยังมีเรือพระราชพิธีหลายลำ ที่สลักโขนเรือเป็นรูปครุฑ เช่นเรือครุฑเหิรเห็จ ครุฑเตร็จไตรจักร และเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน