ชาวบ้าน 2 หมู่บ้านต.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 300 ครัวเรือน เดือดร้อนหนักสระน้ำกลางหมู่บ้านที่ใช้ทำน้ำประปาตื้นเขินมีกลิ่นเหม็น ซ้ำบ่อประปาบาดาลที่พึ่งขุดเป็นน้ำสำรองใช้หน้าแล้ง ก็มีสภาพกร่อยไม่สามารถดื่มกินได้ต้องซื้อน้ำบริโภคครัวเรือนละ 200 บาท วอนหน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งเริ่มคุกคามสระน้ำกลางหมู่บ้านที่ใช้เป็นน้ำดิบผลิตประปาบริการประชาชน 2 หมู่บ้าน มีบ้านหนองขวาง หมู่ 1 และบ้านหนองขวางน้อย หมู่ 17 ตำบลพรสำราญ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 10 ไร่ เริ่มตื้นเขินลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากต้องใช้ผลิตประปาทั้ง 2 หมู่บ้าน คาดจะใช้ได้ไม่ถึงเดือนเมษายนก็จะแห้งขอด อีกทั้งน้ำในสระยังมีกลิ่นเหม็นจากวัชพืชที่หมักหมม และน้ำเสียจากหมู่บ้านไหลลงสระเนื่องจากไม่มีท่อระบายน้ำ

ขณะที่บ่อประปาบาดาลหมู่บ้านที่ใช้งบประชารัฐกว่า 200,000 บาท ขุดเจาะเมื่อเดือนกันยายน 2559 ที่ผ่านมา เพื่อหวังจะให้เป็นน้ำสำรองใช้ในช่วงหน้าแล้งกรณีน้ำในสระไม่เพียงพอ เนื่องจากปีที่ผ่านมาน้ำในสระแห้งขอดเหลือเพียงโคลนตม ทำให้ชาวบ้านขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ แต่สภาพน้ำบาดาลก็กร่อยใช้ได้เพียงซักผ้าและอาบเท่านั้น ไม่สามารถนำไปดื่มกินหรือประกอบอาหารได้ ทำให้ขณะนี้ชาวบ้านต้องลงทุนซื้อน้ำสะอาดจากพ่อค้ารถเร่ครัวเรือนละ 100-200 บาทต่อสัปดาห์ เพื่อใช้สำหรับดื่มกิน หุงข้าว และประกอบอาหาร

จากกรณีดังกล่าวจึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐได้เข้ามาสำรวจหาแนวทางช่วยเหลือ โดยการขุดลอกสระกลางหมู่บ้านให้ลึกกว่าเดิมและทำท่อเชื่อมให้น้ำสามารถไหลเข้าสระได้ เพื่อจะได้มีน้ำกักเก็บไว้ผลิตประปาได้ตลอดทั้งปี

นางสาง พุทไธสง อายุ 56 ปี ชาวบ้านบ้านหนองขวาง ม.1 กล่าวว่า ประสบปัญหาภัยแล้งต่อเนื่องมา 2-3 ปีแล้ว เนื่องจากสระน้ำกลางหมู่บ้านตื้นเขิน ไม่เพียงพอผลิตประปาบริการชาวบ้านในหมู่บ้านได้ตลอดทั้งปี ทำให้ชาวบ้านต้องลงทุนซื้อน้ำอุปโภคบริโภคกันเอง ถึงแม้ปีนี้จะได้รับงบประชารัฐมาทำการขุดเจาะบ่อบาดาลเพื่อใช้เป็นน้ำสำรอง แต่ก็ได้แค่อาบและซักผ้าเท่านั้น ไม่สามารถนำไปบริโภคหรือประกอบอาหารได้ ก็ต้องซื้อน้ำสะอาดจากพ่อค้ารถเร่ไว้ดื่มกิน และหุงหาอาหารเฉลี่ยสัปดาห์ละ 100-200 บาท

จึงอยากให้ร้องขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้ามาสำรวจและหางบประมาณมาดำเนินการขุดลอกสระกลางหมู่บ้าน และทำท่อน้ำไหลเข้าสระ เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ผลิตประปาเพียงพอกับชาวบ้านทั้ง 2 ทั้งหมู่บ้านได้ตลอดทั้งปีด้วย จะได้ไม่ต้องประสบภัยแล้งซ้ำซากแบบนี้

ด้านนายวิเชียร ศรีระพันธ์ และนายนิติกร ลิอ่อนรัมย์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองขวาง ม.1 ทั้งสอง กล่าวว่า สระกลางหมู่บ้านดังกล่าวเป็นแหล่งน้ำดิบเพียงแห่งเดียวที่ใช้ในการผลิตประปา แต่ไม่เคยทำการขุดลอกมาตั้งแต่ปี 2539 ส่งผลให้มีสภาพตื้นเขิน ทั้งยังไม่มีท่อน้ำไหลเข้า-ออก จนไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ผลิตประปาบริการชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านกว่า 300 ครัวเรือนได้ตลอดทั้งปี ทำให้ช่วงหน้าแล้งชาวบ้านเดือดร้อนต้องซื้อน้ำอุปโภคบริโภคต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว

ที่ผ่านมาแม้จะทำเรื่องไปยังทาง อบต.อำเภอ และจังหวัด ให้มาสำรวจเพื่อทำการขุดลอกแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการ จึงอยากร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาสำรวจ เพื่อหางบประมาณมาดำเนินการขุดลอกให้สามารถกักเก็บน้ำไว้ผลิตประปาได้ตลอดทั้ง จะได้ไม่ต้องประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซากอีก

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน