ยิ่งกว่านิยาย ตา-ยายอุดร วอนพิสูจน์ DNA สตรีแห่งขุนเขา เมืองผู้ดี ใช่ลูกสาวที่หายไป 14 ปีหรือไม่

สตรีแห่งขุนเขา / เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี นางเศรษฐินรี เวเนส นายกสมาคมเครือข่ายภาคีหญิงไทยในสหราชอาณาจักร นำทีมงานเข้าพบ นางอรเกษมศิลป์ จิรวัสวงศ์ ยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี เพื่อประสานงานในกรณีที่ นางจูมศรี สีกันยา อายุ 72 ปี ชาวตำบลบ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ร้องขอความช่วยเหลือให้ช่วยติดตามหา นางลำดวน อาร์มิเทจ อายุ 51 ปี ลูกสาวซึ่งแต่งงานกับชายชาวอังกฤษ และย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ แต่ขาดการติดต่อ 14 ปี แล้ว

 

นางจูมศรีสงสัยว่าศพหญิงที่ถูกทิ้งบนภูเขาอุทยานแห่งชาติยอร์กเชอร์ ซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่า หลงทางและหนาวตายเมื่อ 14 ปีก่อน กระทั่งมีนักเดินเขามาพบ อาจจะเป็นนางลำดวนก็เป็นได้

ขณะที่สมาคมเครือข่ายภาคีหญิงไทยในสหราชอาณาจักร ติดตามช่วยเหลือหญิงไทยที่ถูกทำร้าย ได้ติดตามเรื่องศพหญิงนิรนามมานานแล้ว

ด้านนางเศรษฐินรีเปิดเผยว่า เมื่อเดือนที่แล้ว นางจูมศรีเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยติดตามหาลูกสาวชื่อนางลำดวนที่หายสาบสูญไปตั้งแต่ปี 2547 หลังลูกสาวแต่งงานกับชายชาวอังกฤษ มีลูกด้วยกัน 2 คน นับจากลูกสาวหายตัวไป นางจูมศรีติดตามหาลูกสาวทุกหนทุกแห่งและทุกวิถีทางที่ทำได้ แต่ก็ไม่มีวี่แวว

ต่อมาญาติของ นางจูมศรี ที่อยู่ในประเทศอังกฤษเห็นข่าวพบศพหญิงนิรนาม “เจ้าสาวชาวไทย ผ่านไป 14 ปี ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร” ศพถูกทิ้งไว้ในอุทยานแห่งชาติอังกฤษ จากสำนักข่าวต่างประเทศบีบีซี เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2561 ญาติจึงได้บอกให้นางจูมศรี เขียนจดหมายส่งมาสมาคมเครือข่ายภาคีหญิงไทยในสหราชอาณาจักร ถึงเมื่อวันที่ 12 ม.ค.2562

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เมื่อติดต่อประสานงานไปยังตำรวจในอังกฤษ ทราบว่า เมื่อ 14 ปีก่อน นายปีเตอร์ กู๊ดฮิว นักเดินเขาพบศพหญิงนิรนามชาวเอเชียอายุประมาณ 30-35 ปี ถูกทิ้งบนภูเขาอุทยานแห่งชาติยอร์กเชียร์ เสียชีวิตมาประมาณ 3 สัปดาห์ ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย เพราะเนื่องจากเสียชีวิตมาหลายวัน มีหลักฐานคือแหวนทองสวมอยู่ที่นิ้วกลางด้านซ้าย ซึ่งมีส่วนผสมของทองสูงมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ มีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่นิยมผลิต

จากนั้นก็ได้มีการสเกตช์ภาพหน้าศพหญิงนิรนามออกมา ส่วนศพถูกฝังไว้ที่สุสานหมู่บ้านฮอร์ตันอินริบเบิลส์เดล โดยชาวบ้านเรียกหญิงดังกล่าวว่า “สตรีแห่งขุนเขา” จึงสงสัยว่าศพหญิงนิรนามอาจเป็นนางลำดวน

ทางสมาคมเครือข่ายภาคีหญิงไทยในสหราชอาณาจักรจึงติดต่อมายังหน่วย DSI และกระทรวงยุติธรรมในเมืองไทย ให้ช่วยประสานงานมายังนางจูมศรี เพื่อขอตรวจ DNA ว่าศพหญิงนิรนาม สตรีแห่งขุนเขา จะเป็นนางลำดวนที่หายไป 14 ปี หรือไม่ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต จะเป็นการหลงทาง หนาวตาย หรือเป็นการฆาตกรรมนั้น เป็นหน้าที่ของตำรวจอังกฤษ

ต่อมา นางอรเกษมศิลป์ จิรวัสวงศ์ ยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี เดินทางไปที่บ้านของนางจูมศรี สีกันยา และนายบัวสา สีกันยา พ่อแม่ ของ นางลำดวน อาร์มิเทจ ที่ตำบลบ้านธาตุ อ.เพ็ญ เป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน 2 ชั้น โดยได้นำภาพสเกตช์ ศพหญิงนิรนาม มาทำการเปรียบ ภาพถ่ายของนางลำดวน ซึ่งก็มีลักษณะใกล้เคียงหรือคล้ายกัน

สตรีแห่งขุนเขา

นางจูมศรีและนายบัวสา เปิดเผยว่า มีอาชีพทำนา มีลูก 6 คน นางลำดวนเป็นคนโต ได้หย่าร้างกับสามีชาวไทย มีลูก 1 คน ต่อมาได้พบรักกับหนุ่มชาวอังกฤษ ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเขาเป็นครูสอนภาษาที่ กทม. ทั้งคู่ได้มาทำพิธีแต่งงานแบบอีสาน บายศรีสู่ขวัญ ผูกข้อมือที่บ้าน ก่อนที่จะพากัน ไปอยู่กรุงเทพฯ

ต่อมานางลำดวนย้ายกลับไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษกับสามี และมีลูกด้วยกัน 2 คน ซึ่งลูกสาวก็ไปทำงานร้านอาหารที่นั่น ก็ส่งเงินมาให้พ่อแม่ใช้ จำนวนไม่มาก แต่ไม่ได้ส่งให้ตลอดทุกเดือน นางลำดวนได้โทรศัพท์มาเล่าให้ฟัง ว่าถูกสามีทำร้ายร่างกายเป็นประจำ

จนกระทั่งเมื่อปี 2547 นางลำดวน ได้พาครอบครัวกลับมาเยี่ยมบ้าน หลังกลับไปอังกฤษประมาณ 1 เดือน ลูกสาวโทรศัพท์มาบอกว่า สามีไม่ให้เงินใช้ แล้วก็ขาดการติดต่อไปเลย

นางจูมศรีกล่าวต่อไปอีกว่า ตนคิดว่าลูกสาวอาจไม่มีชีวิตแล้ว เพราะเคยฝันเห็นลูกสาวถูกสามีทำร้ายผลักจมลงไปในโคลนหายไป และฝันเห็นลูกสาวมาหาว่าอยากกลับบ้าน หนาวมาก ตนจึงไปพึ่งหมอดู และร่างทรง ซึ่งร่างทรงได้เข้ามากอดตน บอกว่าเป็นลูกสาว หนาวมาก อยากกลับบ้าน ตนร้องขอความช่วยเหลือไปยังคุณเศรษฐินรี ให้ตามหาลูกสาว หากพบว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว ก็จะได้นำมาทำพิธีทางศาสนา

ด้านนางอรเกษมศิลป์กล่าวว่า หลังได้รับการประสานงาน จึงได้มาพบนางจูมศรี เพื่อสอบสวนประวัตินางลำดวน ซึ่งบางอย่างไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ในสำนวน หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะเดินทางมาเก็บตัวอย่าง DNA ของนางจูมศรี เพื่อนำส่งไปเปรียบเทียบกับศพหญิงนิรนาม โดยจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1 เดือน ก็จะทราบผล

++++++++

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

‘เจ้าสาวชาวไทย’ ผ่านไป 14 ปี ยังไม่รู้เป็นใคร ศพถูกทิ้งไว้ในอุทยานแห่งชาติอังกฤษ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน