วันที่ 26 ม.ค. นายทรงกรด ลอยชื่น ชาว ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้นำสุนัขพันธุ์พิตบูลชื่อ “เจ้าบิ๊ก” ที่โชกไปด้วยเลือด ถูกฟันจนขาขาด เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรักษาสัตว์บ้านหมากะแมวในตัวเมืองนครศรีธรรมราช แต่ปรากฏว่า “เจ้าบิ๊ก” ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งทำให้นายทรงกรด ภรรยาและลูกอยู่ในอาการโศกเศร้าเพราะรักและผูกพันธุ์กับ “เจ้าบิ๊ก” มานานร่วม 3 ปี
นายทรงกรด ระบุว่า หลังที่ “เจ้าบิ๊ก” ถูกเพื่อนบ้านฟันจนได้รับบาดเจ็บ ก็ได้เข้าแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีกับเพื่อนบ้านชื่อ นายประเทือง สอดจิตร ที่เป็นคนฟัน “เจ้าบิ๊ก” จนบาดเจ็บแล้วเสียชีวิต โดยก่อนเกิดเหตุ “เจ้าบิ๊ก” ได้ไปวิ่งเล่นอยู่ภายในสวนบริเวณหมู่ 5 ต.ท่างิ้ว อ.เมืองนครศรีธรรมราช แนวเขตอยู่ติดกับสวนของนายประเทือง เพื่อนบ้าน มีลำธารเล็กๆ เป็นแนวกั้นระหว่างที่ของตนและที่ของนายประเทือง
ปรากฏว่ามีสุนัขของนายประเทือง ซึ่งเป็นสุนัขสายพันธุ์พื้นบ้านวิ่งข้ามสวนมายังสวนของตน ซึ่งมี “เจ้าบิ๊ก” คอยไล่เห่าและวิ่งไล่ตามไปกัดสุนัขของนายประเทือง ก่อนวิ่งข้ามไปยังฝั่งที่ดินของนายประเทือง ซึ่งตนได้พยายามร้องห้ามนายประเทือง เพื่อขอความช่วยเหลือให้แยกสุนัขทั้ง 2 ตัวออกจากกัน แต่ปรากฏว่านายประเทือง ได้ใช้มีดพร้าฟัน “เจ้าบิ๊ก” จนฟันหัก แล้วสับขาหลังซ้ายจนขาดกระเด็น
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
หลังจากนั้น “เจ้าบิ๊ก” ก็ไม่สามารถเดินได้อยู่ในอาการบาดเจ็บสาหัส ตนจึงรีบนำร่าง “เจ้าบิ๊ก” ไปรักษาที่โรงพยาบาลรักษาสัตว์บ้านหมากะแมวในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งสัตว์แพทย์พยายามให้การช่วยเหลือในการรักษา “เจ้าบิ๊ก” แต่มันอาการสาหัสมาก ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ท่ามกลางความเสียใจของตนรวมทั้งภรรยาและลูกที่รักมันเหมือนกับลูกคนหนึ่ง เพราะตนได้เลี้ยงมาร่วม 3 ปีแล้ว และยืนยันว่ามันไม่ได้ดุร้าย เพราะฝึกฝนมากอย่างดี
นายทรงกรด ยังกล่าวอีกว่า ไม่คิดว่านายประเทือง ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันจะโหดร้ายทำกันได้ขนาดนี้ หากเข้าใจนิสัยของสัตว์แล้วช่วยกันห้ามก็สามารถห้ามและแยกออกจากกันได้ เพราะ “เจ้าบิ๊ก” นั้นเชื่อฟังไม่น่าต้องฆ่ากัน จึงได้เข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดกับนายประเทือง โดยตำรวจได้นัดหมายให้ตนและนายประเทือง มาพบกันที่วันที่ 29 ม.ค. เพื่อเคลียร์ปัญหากัน
