ร้องอัยการสูงสุด นักสู้เพื่อกะเหรี่ยงแก่งกระจาน ถูกอดีตหัวหน้าอุทยานฯฟ้องปิดปาก

ฟ้องปิดปาก – เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด พิจารณาทบทวนเพื่อถอนฟ้อง นายวุฒิ บุญเลิศ นักสิทธิมนุษยชนผู้นำชาวกะเหรี่ยง กรณี ถูกนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แจ้งความดำเนินคดี

หนังสือร้องเรียนระบุว่า มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า นายวุฒิ บุญเลิศ แชร์ข้อความของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เกี่ยวกับไร่ชัยราชพฤกษ์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งต่อมานายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้แจ้งความดำเนินคดีนายวุฒิ บุญเลิศ ฐานร่วมหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดมีนบุรี

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เห็นว่า ข้อความที่นายวุฒิแชร์ ไม่ได้กล่าวถึงนายชัยวัฒน์ แต่อย่างใด แต่กล่าวถึงนายไพโรจน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่พิพาท การกระทำของนายวุฒิ เป็นการแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม เพื่อให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเรื่องการครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ ทั้งเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ จึงย่อมไม่เป็นความผิดตามที่ถูกฟ้องดำเนินคดี

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า นายวุฒิ บุญเลิศ เป็นผู้นำชาวกะเหรี่ยงที่ออกมาต่อสู้ร้องเรียน กรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สมัยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร เป็นหัวหน้าอุทยาน เผาบ้านยุ้งฉาง และขับไล่ชาวบ้าน รวมทั้ง ปู่คออี้ มีมิ ออกจากบ้านใจแผ่นดินหรือบางกลอยบน ซึ่งผลการตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติระบุว่า

การกระทำของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และล่าสุดมีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด พิพากษาว่าเจ้าหน้าที่กระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นการละเมิดต่อชาวบ้านกะเหรี่ยง และให้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับปู่คออี้และพวก

นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การลุกขึ้นมาเรียกร้องทำให้นายวุฒิและองค์กรที่นายวุฒิ เป็นประธาน คือ เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตงานตะนาวศรี เป็นองค์กรที่ได้รับรางวัลดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2559 จากสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

การที่นายวุฒิถูกฟ้องดำเนินคดีเช่นนี้ อาจเข้าข่ายเป็นลักษณะการใช้กฎหมายดำเนินคดี เพื่อสร้างความยุ่งยากให้แก่นักกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือนักสิทธิมนุษยชน ที่เรียกว่า คดีปิดปาก หรือ Strategic Lawsuit Against Plubic Participation (SLAAP) ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรมที่รัฐยึดถือ

ด้าน นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า จะดำเนินการเสนอเรื่องดังกล่าวต่อท่านอัยการสูงสุดต่อไป เพื่อให้ท่านได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นอิสระ และเป็นกลางตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ส่วนระยะเวลาการตรวจสอบคาดว่าไม่นาน โดยทางสำนักงานอัยการจะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียดเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน