สหกรณ์สถ.พลิกจากวิกฤตหนี้เสีย เป็นมีกำไรสูงสุดในรอบ 14 ปี

เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ( สถ. ) ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำกัด (สอ.สถ.) ได้เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาถือว่า สอ.สถ. มีกำไรสูงที่สุดหลังการก่อตั้ง 14 ปี โดยมีกำไรอยู่ที่ 252 ล้านบาท ถือว่ามากกว่าปีก่อนกว่า 28 ล้านบาท

เป็นผลจากการใช้สิทธิ์เรียกให้ผู้คำประกันชำระหนี้แทนลูกหนี้(ผู้กู้) และมีการประนอมหนี้อย่างเป็นระบบ ทั้งนี้กำไรที่ได้ นอกจากจะนำไปจัดสรรเป็นเงินปันผลตามหุ้นที่ชำระแล้วให้แก่สมาชิก ยังจะนำไปจัดสรรเป็นทุนช่วยเหลือผู้ค้ำประกันอีกด้วย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ปัจจุบัน สอ.สถ.มีสมาชิก 29,029 ราย แบ่งเป็นสมาชิกสามัญ 28,504 ราย และเป็นสมาชิกสมทบ 525 ราย เปิดให้บริการแก่สมาชิก ทั้งกู้สามัญ กู้ฉุกเฉิน และกู้ ATM มีสินทรัพย์รวม 5,048 ล้านบาท หนี้สิน 1,506 ล้านบาท และทุนของสหกรณ์ 3,542 ล้านบาท

สำหรับการดำเนินนโยบายในปีที่ผ่านมา ผลจากการใช้สิทธิ์เรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้แทนลูกหนี้(ผู้กู้) ทำให้มีการชำระหนี้ ระหว่างเดือนตุลาคม ถึง ธันวาคม ปี 2561 เป็นจำนวนเงินสูงถึง 85 ล้านบาท คิดเป็นเงินต้น 74 ล้านบาท และดอกเบี้ยกว่า 11 ล้านบาท นอกจากนี้สหกรณ์ยังมีการประนอมหนี้อย่างต่อเนื่อง

โดย สอ.สถ.ได้ดำเนินการอนุมัติประนอมหนี้ให้กับสมาชิก จำนวนกว่า 469 ราย คิดเป็นเงินกว่า 154 ล้านบาท, หัก ปิดหนี้ (ชำระหนี้ทั้งหมดภายใน 1 งวด) จำนวน 95 ราย คิดเป็นเงิน 20.7 ล้านบาท,หัก ยกเลิกการประนีประนอมหนี้ (ผิดนัดชำระ) จำนวน 105 ราย คิดเป็นเงิน 54 ล้านบาท และคงเหลือลูกหนี้ประนอมหนี้กว่า 269 ราย คิดเป็นเงินราว 78 ล้านบาท

การดำเนินการตามหลักการดังกล่าว ทำให้มีการชำระหนี้เพิ่มขึ้น การตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลงไปกว่า 107.86 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลจากการเก็บหนี้ได้ ทำให้ สอ.สถ. มีรายได้เพิ่ม และมีผลต่อตัวเลขการเพิ่มขึ้นของกำไรโดยตรง

สำหรับปี 2561 สอ.สถ. มีกำไรกว่า 252 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 28 ล้านบาท (ปี 2560 มีกำไร 224 ล้านบาท) ถือเป็นการทำกำไรสูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง สอ.สถ. มาเป็นเวลา 14 ปี ซึ่งที่ประชุมใหญ่จะได้มีการจัดสรรผลกำไรเป็นเงินปันผลตามหุ้นที่ชำระแล้วให้แก่สมาชิก, เป็นเงินเฉลี่ยคืนให้แก่สมาชิกที่ได้มีการชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับ สอ.สถ. ในระหว่างปี,

เป็นเงินโบนัสแก่กรรมการและเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์, เป็นทุนรักษาระดับอัตราเงินปันผล, เป็นทุนสาธารณะประโยชน์ เพื่อจัดสวัสดิการหรือการสงเคราะห์ตามสมควรแก่สมาชิกและครอบครัว ตลอดจนเป็นทุนช่วยเหลือผู้ค้ำประกัน

ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการฯ มีมติจัดสรรกำไรประจำปี 2561 โดยกำหนดอัตราเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืน อยู่ที่ อัตราเงินปันผล 6.40% และอัตราเงินเฉลี่ยคืน 14% นอกจากนั้น ยังจัดสรรกำไรประจำปี เป็นทุนสาธารณประโยชน์ช่วยเหลือเป็นสวัสดิการหรือการสงเคราะห์แก่สมาชิกและครอบครัว เป็นเงิน 9.5 ล้านบาท และเป็นทุนช่วยเหลือผู้ค้ำประกันอีกกว่า 2 ล้านบาท

นอกจากนี้ สอ.สถ. ยังดำเนินโครงการคืนสถานภาพสมาชิกให้ลูกหนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกที่พ้นสมาชิกภาพไปแล้ว และประสงค์จะกลับเข้ามาเป็นสมาชิก สอ.สถ. เพื่อการออม หรือเพื่อชำระหนี้ให้แก่ สอ.สถ. อันจะเป็นการลดการใช้มาตรการทางการกฎหมายในการฟ้องร้องบังคับคดี ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก

ซึ่งสมาชิกที่ขอกลับคืนสู่สถานะสมาชิกภาพที่มีหนี้ค้างชำระ สามารถชำระหนี้เป็นงวดๆได้เช่นเดิม และจะได้รับการปลดหนี้ในดอกเบี้ยที่ค้างชำระ และยังคงได้รับสวัสดิการต่างๆของ สอ.สถ. เช่นเดิม โครงการดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ทั้งในส่วนของ สอ.สถ.และสมาชิกด้วยกัน

และอีกโครงการหนึ่งที่ทาง สอ.สถ. จัดรูปแบบการให้บริการสมาชิกเพิ่มขึ้น คือการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ซึ่งสมาชิกที่เปิดบัญชี สามารถที่จะฝาก – ถอน เงินฝากเมื่อใดก็ได้ จำนวนเท่าใดก็ได้ โดยผ่านระบบ ATM – KTB ทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการ ฝาก – ถอน เงินแต่อย่างใด

สอ.สถ. มีการพัฒนาการดำเนินงานในทุกด้านมาโดยตลอด ทั้งนี้ ก็เพื่อประโยชน์ของสมาชิกส่วนใหญ่ โดยยืดหลักตามปฎิญญาสหกรณ์ที่ว่า “สหกรณ์มั่นคง สมาชิกมั่งคั่ง” นั่นเอง นายสุทธิพงษ์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน