พ่อแม่ปล่อยโฮ! โผล่อีกคลิป ลูกชายถูกรุ่นพี่ รุมทำร้าย อ้างเสียงดัง โร่แจ้งความเอาเรื่องถึงที่สุด
จากกรณี โลกออนไลน์แชร์คลิป กลุ่มนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนดัง ในจ.ลำปาง จำนวน 7-8 คน ปิดห้องแล้วรุมทำร้ายร่างกายรุ่นน้อง ม.2 พร้อมบังคับให้คุกเข่ากราบขอโทษ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ โดยหลังจากที่ทางโรงเรียนทราบเรื่อง ได้สอบสวนเด็กนักเรียนทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง และแบ่งความเกี่ยวข้องออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับที่มีความชัดเจนในการลงมือทำร้ายก็จะต้องเข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ระดับที่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่บ้างก็ต้องทำทัณฑ์บน ส่วนที่ยืนดูเฉยๆ ก็จะทำการว่ากล่าวตักเตือน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ม.ค. มีการแชร์คลิปเด็กนักเรียนถูกทำร้ายร่างกายเป็นคลิปที่สอง ซึ่งเด็กที่ถูกทำร้ายเป็นเด็กนักเรียนชั้น ม.2 เช่นกัน ชื่อน้องเอ (นามสมมติ) และเป็นคนละคนกับเด็กถูกทำร้ายในคลิปแรก แต่กลุ่มนักเรียนที่ก่อเหตุนั้นเป็นกลุ่มเดียวกัน โดยผู้ใช้เฟชบุ๊กที่แชร์คลิปดังกล่าวเป็นญาติกับน้องเอ ได้โพสต์ว่า ผอ.โรงเรียน และพ่อแม่ของเด็กที่มาทำร้ายหลานของตน โดยเหตุเกิดภายในโรงเรียนเดิมอีกเช่นกัน (อ่านข่าว : คลิปฉาวโผล่อีก! เด็ก ม.3 แก๊งเดิม รุมต่อยเพื่อน-กระทืบไม่ยั้ง ล้มแล้วยังซ้ำ พ่อแม่ช็อก)
ต่อมาเวลา 18.30 น. วันที่ 30 ม.ค. นายชาติ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ปกครองของน้องเอ เดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เกาะคา พร้อมกับภรรยา และลูกชาย โดยนายชาติ กล่าวว่า ตนมีบ้านอยู่ในพื้นที่ ต.วังพร้าว อ.เกาะคา ทำงานขับรถบรรทุก จึงไม่ค่อยได้พูดคุยกับลูกมากนัก เมื่อเห็นคลิปแล้วถึงกับทำอะไรไม่ถูก ได้แต่กอดภรรยาร้องไห้ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับลูกของตน จึงเรียกลูกชายมาสอบถาม และทราบว่าน้องถูกทำร้ายจริง โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่าน ภายในโรงเรียน ส่วนสาเหตุที่ถูกทำร้ายเบื้องต้นทราบว่า น้องได้เสียงดังขณะไปเข้าค่ายพักแรม สถานที่แห่งหนึ่ง จึงทำให้ รุ่นพี่ ม.3 กลุ่มนี้ไม่พอใจ และได้มารุมทำร้าย ซึ่งตนจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
จากนั้นได้มีอีกครอบครัวหนึ่งเดินทางมาทั้งพ่อแม่ลูก มาแจ้งความร้องทุกข์อีกเช่นกัน เพราะถูกทำร้ายในกรณีเดียวกัน และเป็นเด็กกลุ่มเดียวกันที่มาทำร้าย ซึ่งผู้เสียหายเป็นนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนเดิมอีกเช่นกัน ถูกรุมทำร้ายเมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา ภายในห้องเรียน และมีการถ่ายคลิปไว้ และเมื่อผู้ปกคอรงมาเห็นคลิปจึงรีบนำลูกหลานมาแจ้งความโดยยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
