รับ6ศพกรมเจ้าท่ากลับบ้าน! เมียเผยผัวหอมแก้มลูก-เมีย แถมพูดเป็นลางลาก่อนนะ

จากกรณีเกิดอุบัติเหตุสลด รถตู้โตโยต้า ทะเบียน ฮท 8263 กทม. กำลังขับพาเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า 9 นาย ที่เดินทางไปทำงานในจ.ภูเก็ต มุ่งหน้ากลับเข้ากรุงเทพฯ เสียหลักชนต้นไม้ในร่องกลางถนนสายเอเชีย 41 ก.ม.ที่ 33 หมู่ 4 ต.สวี อ.สวี จ.ชุมพร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บสาหัส 4 ราย เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 25 ก.พ. ที่สภ.สวี จ.ชุมพร ญาติผู้เสียชีวิต ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอเอกสารก่อนเดินทางไปรับศพ นายปรีชา วะโตเจียม นายกิตติ สิริจงจันทรา นายชัยวัฒน์ สิทธิการ นายสำเริง กระแสร์สินธ์ นายอินธุราม พูลทรัพย์ และ นายจตุรงค์ สาระนัย เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาตามภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิต

โดยก่อนการเคลื่อนย้ายศพทั้งหมด ญาติๆผู้เสียชีวิตได้ขอให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ อำนวยความสะดวกนำไปทำพิธีสวดมนต์เชิญดวงวิญญาณ และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย ยังจุดเกิดเหตุเพื่อให้ได้กลับไปยังภูมิลำเนาถิ่นที่อยู่อาศัย โดยนิมนต์พระสมพงษ์ สะมะวังโส จากวัดเจ้าฟ้าศาลาลอยมาทำพิธีสวดเชิญดวงวิญญาณ โดยบรรยากาศในพิธีเป็นไปด้วยความเศร้าโศก

นางสายฝน วะโตเจียม อายุ 53 ปี ภรรยานายปรีชา ตำแหน่งเจ้าพนักงานเดินเรือชำนาญงาน หนึ่งในผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สามีรับราชการอยู่ที่กรมเจ้าท่ามานานหลายปีแล้ว ปัจจุบันมีลูกสาว 2 คนมีครอบครัวแล้ว สามีไปทำงานประจำอยู่ที่เรือขุดใน จ.ภูเก็ต เมื่อทำงานครบ 15 วัน ก็จะผลัดเปลี่ยนกำลังกันกลับบ้าน 1 ครั้ง สามีถือเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นคนดีไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า

ก่อนจะเดินทางไปทำงานประจำเรือขุดที่ จ.ภูเก็ต เหมือนมีลางสังหรณ์เนื่องจากสามีได้เข้ามาหอมแก้มเรา หอมแก้มลูกสาว และหลานสาวด้วย พร้อมกับพูดว่า “ลาก่อนนะ” แล้วก็ออกเดินออกไปเลย ซึ่งก็ยังคิดอยู่ในใจคนเดียวว่าทำไมสามีทำแบบนี้เหมือนเป็นลาง เพราะปกติสามีไปทำงานอยู่ที่เรือขุดไปๆมาๆอยู่เป็นประจำ ไม่เคยหอมแก้มลูก-เมียและหลานเลย แล้วยังเอ่ยปากบอกลาแบบนี้อีก จนกระทั่งมาทำงานเมื่อครบกำหนดกลับบ้านก็มาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต”

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ด้านนายกิตติกร เทพอยู่อำนวย ปภ.จังหวัดชุมพร กล่าวว่า ฝากเตือนไปถึงผู้ใช้รถใช้ถนน การเดินทางช่วงระหว่าง จ.ชุมพร กับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่ง 2 จังหวัดนี้เป็นถนนสายหลักสู่ภาคใต้ มีความยาวของถนนรวมกันมากกว่า 400 ก.ม. ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนจำนวนมาก ดังนั้นคนขับควรแวะพักตามจุดพักริมทางหรือปั้มน้ำมันทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เหนื่อยล้าเกิดความอ่อนเพลียและจะทำให้หลับในได้

ขณะที่ ร.ต.อ.มาโนช ปลอดขันเงิน รอง สว.(สอบสวน) จ้าของคดี ยังไม่สรุปสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากผู้โดยสารหลับกันมาหมดไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ส่วนคนขับคือ นายเดช จวนชัยนาท อายุ 59 ปี อาการยังโคม่าต้องเจาะสายยางดูดเลือดตกค้างภายในออก สมองได้รับความกระทบกระเทือนรุนแรง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา สำหรับผู้บาดเจ็บรายอื่นๆ 1 รายยังอยู่ในไอซียู อีก 2 ราย อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน