จากกรณีหนุ่มวิศวกรขุดเจาะน้ำมัน ชักชวนครอบครัวไป 5 คน เดินทางด้วยรถกระบะส่วนตัวไปเที่ยวที่หลวงพระบาง สปป.ลาว ระหว่างทางรถเกิดอุบัติเหตุตกเหว ส่งผลให้สมาชิก ครอบครัว ศรีสวัสดิ์ ที่อยู่ในรถทั้ง 5 คนประกอบด้วยนายสุภัทร์ ศรีสวัสดิ์ พ่อ นางอ่อน ศรีสวัสดิ์ แม่ และลูก 3 คน ประกอบด้วย นายสมภพ ศรีสวัสดิ์ นางสมพร ศรีสวัสดิ์ นายสุระพันธ์ ศรีสวัสดิ์ เสียชีวิตทั้งหมด 5 ศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ญาติเดินทางไปที่ สปป.ลาว เพื่อรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน จ.สมุทรปราการ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 มี.ค. ที่ศาลาเอนกประสงค์ วัดชัยมงคล ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพของครอบครัวศรีสวัสดิ์ โดยมี น.ส.สุดาวดี ศรีสวัสดิ์ พี่สาวคนโต นายสมศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ น้องคนที่ 2 และน.ส.กมุทา ศรีสวัสดิ์ น้องสาวคนที่ 5 เป็นผู้จัดงานศพ บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ มีญาติสนิทและของผู้ตายทั้ง 5 คนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ในเวลา 19.00 น. จะเป็นการสวดอภิธรรมศพคืนแรก โดยจะสวมอภิธรรมทั้งหมด 6 คืน ตั้งแต่ วันที่ 5 -10 มี.ค. และฌาปนกิจในวันที่ 11 มี.ค. เวลา 17.00 น.

น.ส.สุดาวดี กล่าวว่า ยอมรับว่ายังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเสียใจจนร้องไห้ไม่ออก พอตั้งสติได้ก็ประสานกับเจ้าหน้าที่ ตม.ไทย และลาว เพื่อเดินทางไปรับศพ และเมื่อล้อเครื่องบินแตะพื้นสนามบินที่ประเทศลาวน้ำตาพี่ก็ไหลออกมาทันที จากนั้นก็ได้นั่งรถต่อไปยังที่เกิดเหตุเพื่อเชิญดวงวิญญาณ พบว่าเส้นทางคดเคี้ยวข้างทางเป็นเหวลึก ดูน่ากลัว ก่อนจะถึงที่เกิดเหตุรถก็เสียถึง 2 ครั้ง และคนในพื้นที่ยังบอกว่าถ้าไม่ชำนาญทางควรจอดรถไว้ฝั่งไทยแล้วจ้างรถมาดีกว่า

“โดยปกติน้องชายคนเล็กจะพาพ่อกับแม่และคนที่บ้านไปเที่ยวอยู่ประจำ โดยครั้งนี้ที่ลาวเป็นครั้งที่ 2 โดยจะไป 10 วัน ในวันที่ครอบครัวต้องเดินก็ไม่ได้มีเหตุการณ์หรือลางสังหรณ์อะไรมาแจ้งเตือน เสียใจมากกับเหตุการที่เกิดขึ้น ทำไมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่คุ้มครองเราเลยทั้งที่ทุกคนก็สวมพระหมดทุกคน โชคดีที่ยังมีลูกหลานที่เหลืออยู่ค่อยให้กำลังใจกัน ถ้าอยู่คนเดียวคงทำใจไม่ได้” น.ส.สุดาวดี กล่าว

ด้าน นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ก่อนที่ครอบครัวจะไปเที่ยวกันนั้น ตนกับพี่สาวคนโต พยามห้ามทั้งหมดไว้แล้ว แต่ไม่สามารถห้ามได้ เพราะด้วยการทำงานของสมภพ ที่ทำงานหนักและเป็นเสาหลักของครอบครัว และเสียสละเพื่อครอบครัวมาตลอด ซึ่งน้องเป็นคนทำงานเก่ง และเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก และเขาสามารถทำงานในสถานการณ์และสถานที่ยากลำบากได้ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่สมภพต้องไปทำงานที่อิรัก เขาก็โทรมาบอกพี่สาวว่าที่นั้นอยู่ค่อนข้างลำบาก แต่เขาก็อยู่ได้

“ที่มีบ้านอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะน้องสมภพ เขาจึงไม่ค่อยมีเวลาจะพักผ่อน ในเวลาที่น้องสมภพได้พัก บางครั้งก็พักเพียงแค่สัปดาห์เดียว เขาจึงมักชวนครอบครัวไปเที่ยว โดยเฉพาะพ่อกับแม่ ผมก็รู้สึกช็อกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ โดยเฉพาะการดูแลคนในครอบครัวที่เหลืออยู่” นายสมศักดิ์ กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ขณะที่ นายสมชาย รอดทองเติม อายุ 54 ปี เจ้าพนักงานตรวจเรือ อดีตอาจารย์สอนหลักสูตรช่างกลเรือพิเศษ กล่าวว่า นายสมภพ เป็นลูกศิษย์ของตนสมัยที่เรียนหลักสูตรช่างกลเรือพิเศษ ศูนย์ฝึกพานิชนาวี รุ่นที่ 8 โดยจะเรียกกันชื่อเล่นว่า “ตี๋” เป็นคนเรียนดี นิสัยดี หลังจากที่เรียนจบก็ยังมีการติดต่อกันอยู่ในกลุ่มเพื่อนและศิษย์กับอาจารย์ โดยนายสมภพ เลือกที่จะไปทำงานด้านปิโตเลียม ส่วนเพื่อนเขาก็จะไปทางเรือเดินทะเล มาทราบข่าวจากกลุ่มเพื่อนของนายสมภพ ที่ติดต่อทางไลน์กลุ่ม ตนมีความเสียใจและเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะลูกศิษย์คนนี้เป็นคนหนุ่มที่มีฝีมือ มีอนาคตไกล และเป็นคนดีมาก


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน