‘พ.ต.ต.’เดือด! บุกโรงเรียนเสธฯทวงเงิน‘พ.ต.’คดีโกงค่าตัดชุดตำรวจ 5.2 ล้าน

วันที่ 12 มี.ค. บริเวณหน้าโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ถนนพระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ ตั้งมหากิจศิริ หรือ “สารวัตรชิน” สารวัตรฝ่ายการฌาปนกิจสงเคราะห์ บก.สก. เดินทางก้มกราบป้าย ด้านหน้าโรงเรียนเสนาธิการทหารบก เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกับผู้บังคับบัญชาทหาร กรณีนายทหารยศ “พันตรี” เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร คู่กรณีพิพาทเรื่องฉ้อโกงค่าตัดเครื่องแบบตำรวจ มูลค่ากว่า 5,200,000 บาท ได้เดินทางมาเข้ารับการอบรมหลักสูตรเสนาธิการทหารบกในวันนี้

พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางเดือนธ.ค. 2560 พ.ต.คนนี้ซึ่งเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นเดียวกัน และภรรยาได้ร่วมกันชักชวนและหว่านล้อมให้ตนหาลูกค้ามาตัดชุดตำรวจแบบใหม่ที่ใช้ผ้ากากี สนว.01 โดยพ.ต.กับภรรยาหลอกลวงว่า มีโควตาผ้ากากี สนว.01 จำนวน 100,000 หลา สามารถตัดชุดตำรวจได้ 5,000-7,000 ชุดต่อเดือน โดยใช้แม่บ้านในค่ายกว่า 200 คนในการตัดเย็บ โดยลูกค้าจะได้รับชุดภายใน 30-45 วันนับแต่วันวัดตัว มีการชวนเชื่อด้วยว่าคุณภาพของชุดตำรวจที่ลูกค้าจะได้รับนั้นจะมีคุณภาพดี

พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ กล่าวอีกว่า ตนเห็นเป็นเพื่อนร่วมเรียนกันมา และทหารเป็นอาชีพที่มีเกียรติ จึงได้ช่วยประชาสัมพันธ์หาลูกค้าให้ โดยประชาสัมพันธ์ไปทางกลุ่มไลน์และส่งแฟกซ์ไปตามโรงพัก เพราะเห็นว่าราคาชุดตำรวจที่เพื่อนตัดนั้น ถูกกว่าร้านอื่นและได้รับสินค้าเร็วกว่าร้านอื่นมากๆ เนื่องจากขณะนั้นชุดเครื่องแบบตำรวจ ร้านอื่นขายชุดละ 2,000 ขึ้นไป และได้อย่างเร็วสุดประมาณเดือนเม.ย. 2561 ซึ่งขณะนั้น พ.ต.คนนี้ให้ตนเรียกเก็บเงินมัดจำจากลูกค้ามาก่อนชุดละ 1,000 บาท กระทั่งมีข้าราชตำรวจสนใจติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่า 150 หน่วย

พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อมีการนัดวัดตัวลูกค้า จะมีการเก็บเงินมัดจำค่าชุดก่อน โดยตนได้โอนเงินค่ามัดจำให้แก่ภรรยาของพ.ต.ทั้งหมด รวมเป็นเงิน 5,200,000 บาท แต่เมื่อถึงกำหนดรับชุดตำรวจกลับไม่ส่งชุดตำรวจให้ตามกำหนด มีการขอเลื่อนมาหลายครั้งและหลายเดือน กระทั่งตนและลูกค้าพากันกดดันจนยอมตัดชุดส่งมาล็อตหนึ่ง ซึ่งชุดล็อตนั้นส่วนใหญ่จะใส่ไม่ได้ แถมใช้ผ้าผิดประเภท วัสดุที่นำมาตัดก็ด้อยคุณภาพ ที่สำคัญไม่ใช่ผ้ากากี สนว.01 ตามระเบียบแต่อย่างใด ทำให้ลูกค้าที่รับชุดล็อตนั้นต้องส่งคืน เมื่อมีการบอกกันปากต่อปากลูกค้าที่จ่ายเงินมัดจำมาแล้วกว่า 5,000 ราย ได้ขอยกเลิกแจ้งความประสงค์ขอรับเงินคืน ตนพยายามทวงถามไปที่ พ.ต.และภรรยากลับติดต่อไม่ได้และหายหน้าไป ทำให้ตนตกเป็นจำเลยในหมู่เพื่อนตำรวจด้วยกัน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“ผมจึงตัดสินใจกับผู้เสียหายหลายราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีฐานร่วมกันฉ้อโกง กับทั้ง 2 คนเอาไว้ก่อนหลายท้องที่ เพื่อหาทางเจรจาทวงเงินคืนมาให้ได้ แต่ปรากฏว่า คู่กรณีก็ยังนิ่งเฉย ผมทำหนังสือร้องเรียนไปที่ผู้บังคับบัญชาทางทหาร ทั้งสำนักนายกรัฐมนตรี กองทัพบก กระทรวงกลาโหม หน่วยงานต้นสังกัด และที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก รวมแล้ว 13 ครั้ง แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

ไม่มีแม้แต่การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันนี้จึงตัดสินใจมาตามหาเพื่อนที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก เพราะรู้ว่าเพื่อนกำลังศึกษาอยู่ที่สถาบันอันทรงเกียรติแห่งนี้ แต่มีผู้บังคับบัญชาระดับพันเอก ออกมาแจ้งว่า จะติดต่อประสานงานให้พูดคุยกันภายหลัง ซึ่งผมได้แจ้งไปแล้วว่า ภายในสัปดาห์หน้าผมและผู้เสียหายจะปรึกษาทนาย เพื่อเข้าฟ้องร้องต่อศาลให้ดำเนินการกับทั้ง 2 คนในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ต่อไป” พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ ระบุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน