คลินิกขอเคลียร์ หลังเสริมอึ๋มสาวช็อกดับ พบมีอีกราย ป่วยหนัก หลังทำหน้าอก ที่เดียวกัน

จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ชาว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เข้ารับการรักษาผ่าตัดทรวงอก เสริมไซส์ ที่คลินิกเสริมความงามชื่อดังแห่งหนึ่ง อ.เมืองอุดร เกิดช็อกหมดสติและเสียชีวิต จากการชันสูตรพลิกศพ พบสภาพมีบาดแผลที่หน้าอก โดยระบุในใบชันสูตรว่าเสียชีวิตเวลาประมาณ 23.45 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา

คืบหน้าล่าสุด วันที่ 24 มี.ค. ร.ต.ท.หญิงธัญลักษณ์ คำชมพู รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ร้อยเวรเจ้าของคดี เผยว่า เบื้องต้นตั้งแต่วันรับแจ้งเหตุได้ไปร่วมกับทางแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลอุดรธานี ก็มีเพียงผลการตรวจว่าเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังจากรับตัวผู้ป่วยมาจากคลินิกเสริมความงาม ด้วยอาการหัวใจหยุดเต้น ทางญาติไม่ให้ทางโรงพยาบาลผ่าพิสูจน์ศพ แม้ทางโรงพยาบาลจะส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร จ.ขอนแก่น ก็ไม่ยอม ขอส่งศพไปผ่าที่โรงพยาบาลศิริราช จึงมีการดำเนินการตามที่ญาติร้องขอ

ด้าน พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องขึ้นก็ได้สอบสวนไปยังหมอเจ้าของคลินิกดังกล่าว ทราบว่ามีใบประกอบสถานพยาบาล สามารถตรวจรักษาโรคทั่วไป แต่ไม่ใช่สถานพยาบาลที่สามารถรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนได้ เบื้องต้นพบว่ามีการรักษาเสริมจมูก เสริมคาง ปากกระจับ ตาสองชั้น ปรับรูปหน้า โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ แต่ไม่พบว่ามีการแจ้งการรักษาเสริมหน้าอก ทำให้สงสัยว่าทำไมมีการผ่าตัดเสริมหน้าอกในคลินิกได้

พ.ต.อ.สรายุทธ กล่าวต่อว่า ต้องสอบสวนไปทางสาธารณะจังหวัดอุดรธานี ว่าคลินิกแห่งนี้สามารถรักษาผู้ป่วยในรูปแบบไหนได้บ้าง หากพบว่ามีการกระทำผิดนอกเหนือจากการได้รับอนุญาตก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหากันไปตามความจริง นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับพี่ชายของผู้ตาย ที่ยังติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต และยังได้กำชับให้ร้อยเวรเจ้าของคดี ให้ทำคดีแบบตรงไปตรงมา อย่าให้ใครมาชี้นำให้ต้องสอบสวนตาม จะทำให้ผลคดีออกมาไม่ถูกต้อง พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ต้องว่ากันไปตามหลักฐาน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ขณะที่พี่ชายของผู้ตาย กล่าวว่า น้องสาวทำธุรกิจเกี่ยวกับความงาม อาหารเสริมอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ส่วนตนทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ เมื่อทราบข่าวว่าน้องสาวเสียชีวิต จากการเข้ารับการรักษาเสริมหน้าอก ก็รีบเดินทางกลับมาทันที เบื้องต้นทราบว่าน้องสาว เคยเสริมความงามมาแล้วหลายอย่าง แต่เป็นครั้งแรกที่ทำการเสริมหน้าอก และตัดสินใจมาทำกับคลินิกแห่งนี้ หลังจากได้ชำระเงินค่าเสริมหน้าอกให้กับทางคลินิกไปแล้ว ก็เข้ารับการรักษาประมาณช่วงบ่ายโมงของวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา

“กระทั่งประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆ น้องสาวมีอาการหัวใจหยุดเต้น ต่อมามีการเรียกรถพยาบาลของโรงพยาบาลอุดรธานี มารับตัวไปเข้าห้องฉุกเฉิน มีการปั๊มหัวใจอยู่นานประมาณ 30 นาที ก็ไม่มีอาการตอบสนอง จึงมีการยื้อชีวิตด้วยการปั๊มหัวใจอีกรอบ กระทั่งมีสัญญาณชีพตอบรับมาแต่ต่ำมาก จนความดันตกลงมาจนหัวใจหยุดเต้นอีกครั้ง และเสียชีวิตลง” พี่ชายของผู้ตาย กล่าว

พี่ชายของผู้ตาย กล่าวต่อว่า หลังจากน้องสาวเสียชีวิต ได้สอบถามจากเพื่อนและญาติๆ ที่มีความรู้เรื่องการรักษาพยาบาลทราบว่า คลินิกแห่งนี้ไม่มีผู้เชี่ยวชาญหรือใบอนุญาตวิสัญญีแพทย์ จึงไม่น่าจะทำการรักษาแบบใช้ยาสลบ น่าจะใช้ยาชา ยาแก้ปวด ที่เกินขนาดเกินโด๊ส ทำให้แพ้ยา จนช็อกหรือหัวใจวาย เพื่อความสบายใจของตนและญาติๆ จึงนำศพน้องสาวไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศิริราช

“เมื่อทำการผ่าพิสูจน์เสร็จก็จะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดจังหวัดอุดรธานี ส่วนในเรื่องของคดี ทางคลินิกได้มีการเสนอการเยียวยามาแล้ว แต่ทางเรายังไม่ได้สอบถามว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่ เพราะเราต้องการทราบผลหรือสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดและเป็นความจริงที่สุด เราจึงจะเจรจาเรื่องเยียวยา ส่วนคดีของทางตำรวจก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย” พี่ชายของผู้ตาย กล่าว

พี่ชายของผู้ตาย กล่าวต่อว่า ตอนนี้ทางโรงพยาบาลศิริราช แจ้งว่าผลการผ่าพิสูจน์ศพจะออกภายใน 60 วัน แต่ตนใจร้อนจึงได้ประสานไปยังร้อยเวรเจ้าของคดี ให้ทำเรื่องเพื่อขอทราบผลการผ่าพิสูจน์ภายใน 30 วัน คาดว่าจะทราบผล ถึงวันนั้นจึงจะมีการเจรจาเรื่องค่าเสียหาย นอกจากน้องสาวของตนแล้ว ยังทราบข่าวจากผู้หวังดีอีกว่า มีผู้ป่วยเป็นหญิงสาวรายหนึ่ง รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หลังจากเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอกที่คลินิกแห่งหนึ่ง ก่อนหน้าที่น้องสาวจะเสียชีวิต โดยมีการให้ข้อมูลกับทางตำรวจไว้แล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน