ปรับแผนใหม่! หา น้องภาคิน เตรียมสูบน้ำคลองชลประทาน อาจหายเข้าไปในโพรงน้ำ ในช่วงที่น้ำแรง ผู้ว่าฯเพชรบุรี เข้าพูดคุย ให้กำลังพ่อ-แม่ อยากให้สบายใจ ภาครัฐไม่ทิ้ง

น้องภาคิน จากกรณี ด.ช.ภาคิน อายุ 1 ขวบ 7 เดือน หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากบ้านพัก ในพื้นที่ ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ลงค้นหาในคลองชลประทานสาย 3 หมู่ 3 ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี แต่ก็ยังไม่พบแต่อย่างใด โดยตำรวจได้นำสุนัขตำรวจช่วยค้นหา ส่วนพ่อก็พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้เจอลูกไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม ขณะเดียวกันเกิดกระแสดราม่าว่าแม่ขายลูก ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ออกมาโต้เรื่องดังกล่าว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 7 เม.ย. นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมเข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา และเจ้าหน้าที่เดินทางมายังบริเวณบ้านพัก ภายในไร่มะม่วง ริมคลองชลประทาน หมู่ 8 ต.ท่าคอย เพื่อเข้าพูดคุยกับ นางอารยา ขัวลำหาญ อายุ 26 ปี และ นายโชคชัย คิดตลอด อายุ 32 ปี พ่อและแม่ของน้องภาคิน เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการหายตัวไปของน้องภาคิน

จากนั้น นายเอกลักษณ์ ได้นำเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือวัดระยะทางจากบ้านพักมายังบริเวณคลองชลประทาน ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่าน้องภาคิน อาจพลัดตกลงไปในคลองชลประทาน และวัดระยะทางจากคลองชลประทานไปยังถนนสายหลักที่คาดว่าน้องภาคินอาจจะเดินออกมาอีกด้วย

เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายมาโนชย์ คงรัตนชาติ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบุรี พร้อมคณะ เดินทางมาพูดคุยและขอทราบข้อมูลการหายตัวไปของน้องภาคิน จากพ่อและแม่ เพื่อที่จะได้หาทางเยียวยาต่อไป

จากนั้น นายกอบชัย บุญอรณะ ผวจ.เพชรบุรี ได้เดินทางมาให้กำลังใจพ่อและแม่น้องภาคิน พร้อมตรวจสอบรอบๆ บริเวณ และในสวนมะม่วง ก่อนกล่าวว่า ตนมาให้กำลังใจตราบใดที่ยังไม่เจอเด็กก็ยังมีโอกาศ จึงมาหาพ่อและแม่น้องภาคิน อยากให้สบายใจว่าภาครัฐทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ พม.จะทำอย่างเต็มที่ในการที่จะค้นหาไม่ว่าจะเป็นทางบก จะสังเกตว่าเรามีการปูพรม ทางน้ำเราก็ดูแล้วรอบสองรอบ โดยทางอาสาสมัครต่างๆ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

อย่างไรก็ตามคงต้องหาซ้ำอีก ทางน้ำอาจมีโพรงมีรูช่วงที่น้ำแรงๆ อาจดูดได้พรุ่งนี้คลองชลประทานจะให้ปิดน้ำทั้งหมดเพื่อให้พื้นที่ต่ำ รวมทั้งได้ประสานนายอำเภอให้บอกกู้ชีพกู้ภัยว่าตัวเองจะต้องมีความปลอดภัยไว้ก่อน ต้องมีระบบไม่ว่าจะเป็นเชือกรัดในการปล่อยคนเข้าไป ระบบของไฟหน้าหมวก วิทยุสื่อสาร เพราะการเข้าพื้นที่เป็นรูเป็นโพรงอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ เพราะฉะนั้นต้องให้มีการให้อาณัติสัญญาณกันเป็น เชื่อว่าเขาคงเข้าใจอยู่เพราะค้นหาบ่อย ทางบกที่มีเฮลิคอบเตอร์ยังบินอยู่เพื่อดูเส้นทาง ซึ่งเราไม่ละที่จะสอบสวนสืบสวนว่าจะมีโอกาศไหมที่ใครจะมาพาตัวเด็กไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน