ผู้ใหญ่บ้าน ลั่น! เอาผิด แก๊งโจ๋หลีสาว คว้าขวดตีหัวเลือดอาบ-ยกเก้าอี้ฟาดซ้ำ เผยถ้าเพื่อนไม่ยิงปืนขู่ ตัวเองอาจถึงตายได้ ด้าน สาวถูกแทะโลม ระบุดูหมื่นศักดิ์ศรีผู้หญิงมาก ตร.รู้ตัวมือทุบหัวแล้ว
จากกรณีเกิดเหตุทะเลาะวิวาท ที่ร้านมหาชิลลล ตลาดนัดยามเย็น ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร วัยรุ่นอายุ 18 ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยผู้ก่อเหตุคือ นายรณชัย หรือ โย ตุ้มนิลการ อายุ 30 ปี ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุ นอกจากนี้ยังพบผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย คือ นายชโลธร แพรกอุดม อายุ 35 ปี หรือผู้ใหญ่โล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ถูกขวดแก้วตีที่ศีรษะจนสลบ 2.น.ส.สร (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ถูกขวดแก้วบาดแขนซ้าย เย็บ 12 เข็ม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
- อ่านข่าว : โจ๋18เมาแซวเพื่อนสาวผญบ. “พาไปด้วยคิดเท่าไหร่” ตะลุมบอนยับ ปืนยิงสวน เจ็บ4
- อ่านข่าว : วงจรปิดแฉ แก๊งโจ๋หลีสาว คว้าขวดทุบหัว ผู้ใหญ่บ้าน น็อก เจอยิงสวนเจ็บ อำเภอจ่อสอบ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เม.ย. นายชโลธร แพรกอุดม หรือ ผู้ใหญ่โล ผู้เสียหายที่ถูกตีศีรษะ พร้อมด้วย น.ส.สรณ์ (นามสมมติ) เพื่อนสาวของนายชโลธร ที่ถูกวัยรุ่นชายพูดจาแทะโลมไม่ให้เกียรติ จนนำไปสู่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับเพิ่มเติมกับ ร.ต.อ.รุ่งเรือง เฮงฮู้ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสาคร
นาชโลธร กล่าวยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เริ่มมาจากฝ่ายพวกตน แม้เพื่อนสาวที่มาด้วย 2 คน จะถูกพูดจาใส่แบบไม่ให้เกียรติ แต่พวกตนก็ไม่ได้ลงมือทำร้ายร่างกายใคร ซึ่งอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เข้ามาทำร้ายร่างกายก่อน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานชัดเจน ส่วน นายรณชัย ตุ้มนิลการ ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวไว้แล้วนั้น ก็มีความจำเป็นต้องใช้ปืนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามารุมทำร้ายร่างกาย เพื่อเป็นการช่วยชีวิตตนและเพื่อน ๆ รวมถึงตัวเขาเองด้วย
“เพราะฝ่ายผมมีผู้ชายเพียง 3 คน อีก 2 คนเป็นผู้หญิง ซึ่ง ณ เวลานั้นหากนายรณชัยไม่ใช้ปืนยิงข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม พวกผมก็อาจจะมีอันตรายถึงชีวิตได้ ทั้งนี้ เมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว จะเห็นได้ว่าพออีกฝ่ายเอาขวดมาตีหัวจนผมล้มลงไปที่พื้นแล้ว ก็ยังเอาโต๊ะขึ้นมาฟาดซ้ำอีกด้วย ส่วนนายรณชัยก็ถูกทำร้ายร่างกายไม่น้อยเหมือนกัน” นายชโลธร กล่าว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมจึงต้องพกอาวุธปืนเข้าไปในบริเวณสถานบันเทิงหรือลานเบียร์ด้วย นายชโลธร กล่าวยอมรับว่า ปืนเป็นของตนจริง แต่ปืนกระบอกนี้เดิมทีถูกเก็บไว้ในรถยนต์ แต่พอนั่งดื่มกันจนมืดดึก นายรณชัยเห็นว่าเอาปืนไว้ในรถไม่ปลอดภัย เพราะทุกวันนี้มีการทุบรถโจรกรรมทรัพย์สินกันอยู่บ่อยครั้ง จึงได้เดินไปเอาปืนมาพกไว้กับตัว แล้วก็มาประจวบกับเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นตามที่ทราบกันดังกล่าว ว่ามีการใช้ยิงข่มขู่กลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุ แล้วก็มีผู้ถูกกระสุนปืนบาดเจ็บที่แขนและขา 2 คน ซึ่งตนพร้อมชี้แจงต่อนายอำเภอผู้บังคับบัญชาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน น.ส.สรณ์ กล่าวว่า คืนวันเกิดเหตุ พวกตนนั่งดื่มและพูดคุยกันไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใครก่อน แต่ตนและน้องสาวถูกฝ่ายคู่กรณีพูดจาแทะโลมไม่ให้เกียรติ โดยถามว่า “ถ้าต้องการไปส่งที่บ้านคิดเท่าไหร่” เป็นการพูดจาที่ดูหมิ่นศักดิ์ศรีผู้หญิงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ตนเพียงคนเดียวที่ถูกถามคำถามนี้ แต่น้องสาวที่มาด้วยก็ถูกถามเช่นกัน
“ซึ่งทีแรกพวกเราก็พยายามระงับอารมณ์ไม่พูดจาตอบโต้ เพราะเห็นเขาเมามาก แต่ก็มาเกิดเรื่องขึ้นจนได้เพราะอีกฝ่ายเริ่มก่อน โดยตนนอกจากจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยังได้รับบาดเจ็บจากเศษขวดแก้วที่คู่กรณีใช้ตีศีรษะนายชโลธรนั้น กระเด็นมาใส่ปาดแขนซ้ายเป็นแผลเย็บ 12 เข็มอีกด้วย” น.ส.สรณ์ กล่าว
ขณะที่ ร.ต.อ.รุ่งเรือง เปิดเผยว่า ในเรื่องการประกันตัวนายรณชัย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านประกันตัวโดยให้ไปประกันตัวในชั้นศาล ส่วนผู้ที่ใส่เสื้อขาวแล้วถือขวดเบียร์ตีนายชโลธรตามภาพที่ปรากฏในวงจรปิดและตามคำให้การของผู้เสียหายนั้น คือ นายบงกช ลาเฟื้อย อายุ 30 ปี ซึ่งจะได้เรียกตัวมาดำเนินการตามกฎหมายในข้อหาก่อเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายผู้อื่นต่อไป