คุมตัว โจรปล้นร้านจำนำ ย่านบางแคฝากขัง! ค้านประกัน เหตุอัตราโทษสูง เจ้าตัวไม่ยื่นประกัน นอนคุกยาว ตำรวจเร่งล่าอีก 2 เผยติดตามยึดทรัพย์ที่ถูกปล้นไปได้แล้วกว่า 2 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ศาลอาญาธนบุรี ถ.บางบอนเอกชัย พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ได้ควบคุมตัว นายนพอนันต์ ภาษิตรุ่งโรจน์ อายุ 52 ปี ชาว.กทม ย่านหนองแขม ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 252/2562 ลงวันที่ 4 พ.ค.2562 ร่วมกันปล้นทรัพย์ร้านรับซื้อของหลุดจำนำ “ศิริชัย” ย่านบางแค มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 5-16 พ.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 6 ปาก และรอผลตรวจพิสูจน์ของกลาง กับผลตรวจสอบการพิมพ์มือของผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวน ได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากคดีที่มีอัตราโทษสูงหากให้ประกันเกรงว่าผู้ต้องหาน่าจะหลบหนี

โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.10 น. มีคนร้าย 3 คนเป็นชายร่วมกันเข้าปล้นทรัพย์ที่ร้าน “ศิริชัย” ซึ่งเป็นร้านรับซื้อของหลุดจำนำ โดยคนร้ายที่ 1 สวมหมวกนิรภัย (หมวกกันน็อค) สีแดงอมส้มแบบเต็มใบ ใส่ผ้าปิดจมูกทับไว้อีกทีหนึ่ง เดินเข้าไปในร้าน, คนร้ายที่ 2 ใส่ผ้าปิดจมูก สวมเสื้อผ้าสีน้ำเงินแขนยาวด้านหลังมีอักษรภาษาอังกฤษ เดินตามเข้าไป ขณะที่คนร้ายที่ 3 สวมเสื้อคลุมสีน้ำตาล ใส่ผ้าปิดจมูกสีขาว ซึ่งเดินเข้ามาในร้านแล้วคนร้ายที่ 3 ได้ใช้มือข้างหนึ่งวางอาวุธปืนไว้บนเคาน์เตอร์ตู้โชว์สินค้า หันปากกระบอกปืนเข้าหาคนในร้านคนที่ 1 แล้วบอกให้ยืนอยู่เฉยๆ มีอะไรส่งมาให้หมด

จากนั้นคนร้ายที่ 1-2 ได้เดินอ้อมมาทางด้านหลังเคาน์เตอร์ดังกล่าวแล้วใช้กำลังกดตัว คนในร้านคนที่ 1 ไว้แล้วสั่งให้ก้มลงกับพื้น ไม่ให้เงยหน้า ขณะที่คนร้ายคนที่ 3 เดินตามเข้ามาสมทบใช้มือข้างหนึ่งล็อคคอคนในร้านคนที่ 2 จากด้านหลังและใช้มืออีกข้างหนึ่งที่ถืออาวุธปืนอยู่สั่งให้นั่งลงและก้มหน้า โดยคนร้ายที่ 3 ยังได้ใช้อาวุธปืนตีไปที่ศีรษะของคนในร้านคนที่ 1 หลายครั้งด้วยพร้อมขู่บังคับให้ก้มหน้าไม่ให้เงยหน้าขึ้น ก่อนที่คนร้ายทั้งสามจะนำมือถือ 2 เครื่อง กับเครื่องประดับเพชรหลายรายการและเงินสดหลบหนีไป ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายทั้งสองได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บชน.จึงได้พบและตรวจยึดทรัพย์สินที่คนร้ายนำไปซึ่งอยู่ในความครอบครองของนายอนันต์ ผู้ต้องหานี้รวม 15 รายการ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท โดยจับกุมผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา จึงได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีฐานร่วมกันปล้นทรัพย์กระทำโดยแสดงความทารุณเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิดหรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม โดยปลอมตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่นหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธหรือ, โดยร่วมกระทำความผิดกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น,

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ชีวิตร่างกายเสรีภาพ หรือทรัพย์สินหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นหรือกระทำโดยมีอาวุธ, รับของโจร ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เหตุเกิดที่ร้านขายของเก่า “ศิริชัย” แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. ทั้งนี้ ศาลพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขังครั้งแรกแล้ว นายนพอนันต์ ผู้ต้องหา ก็ไม่ได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากนี้แต่อย่างใด เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขังทั้งหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษธนบุรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการติดตามจับกุม นายนพอนันต์ นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ได้ที่บ้านเกิดหนองคอนไท ต.กุดตุ้ม เมืองชัยภูมิ พร้อมทรัพย์สินของกลาง เป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุอีก 2 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป ซึ่งมีรายงานว่าหลบหนีอยู่บริเวณประเทศเพื่อนบ้าน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน