เฉลยที่มา! ปิกอัพพุ่งทะลุ มอเตอร์เวย์ ญาติโวยไม่มีป้ายเตือน จ่อเรียกค่าเสียหาย

วันที่ 6 พ.ค.ความคืบหน้ากรณีรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ เลขทะเบียน ผน 5517 นครราชสีมา ประสบอุบัติเหตุบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 ถนน มอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา ตอน 37 ซึ่งกำลังก่อสร้างทางต่างระดับ

ความสูงจากพื้นด้านล่างถนนมิตรภาพ ประมาณ 6 เมตร สภาพล้อหน้าและหลังด้านซ้ายตกอยู่ในร่องปูนคอนกรีต ส่วนผู้ขับขี่เป็นชายไทยอายุ 61 ปี ข้าราชการบำนาญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกตามร่างกายแต่กระดูกไม่หัก อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฮุก.31 นครราชสีมา นำส่งไปรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลสีคิ้ว

นายพรชัย ศิลารมย์ แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 เปิดเผยว่า จากการสอบถามนายช่างผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ระบุบริเวณที่เกิดเหตุเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ฯ ซึ่งเป็นสะพานยกข้ามถนนท้องถิ่น สายองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (อบจ.นม.) 20305 สายบ้านหัน-บ้านกุดน้อย อ.สีคิ้ว ผู้ประสบเหตุขับเข้ามาในพื้นที่โครงการ ฯ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 160+340

โดยปีนด้านข้างทางที่ถมดินไว้ เพื่อใช้เป็นเส้นทางลำเลียงวัสดุ อุปกรณ์ก่อสร้างและคนงานเข้ามาก่อสร้างทางต่างระดับเส้นทางเลียบอ่างเก็บน้ำลำตะคอง จุดเกิดเหตุช่วงหลักกิโลเมตรที่ 164+392 ในขณะรถแล่นอยู่ในพื้นที่โครงการ ฯ ประมาณ 2 กิโลเมตร อยู่บนตัวสะพานได้ประมาณ 40 เมตร เกือบจะข้ามสะพานความยาว 60 เมตร

รถได้ประสบอุบัติเหตุตกลงไปในร่องคอนกรีตติดค้างอยู่บนทางต่างระดับ เบื้องต้นผู้ขับขี่มีอาการคล้ายคนเมาสุรา อย่างไรก็ตามบริเวณดังกล่าวได้ติดตั้งป้ายเตือน เพื่อแจ้งให้ผู้ใช้รถใช้ถนน ระมัดระวังพื้นที่ก่อสร้างและห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปเด็ดขาดรวมทั้งทำรั้วกั้นมอเตอร์เวย์

ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างประเมินเบื้องต้นพบแผ่นพื้นคอนกรีตแตกหักและรอผลการตรวจทางวิศวกรรม กรณีชิ้นงานที่วางบนคานและตอม่ออาจบิดเบี้ยวหรือเสียรูปทรง บริษัทเอกชนที่รับผิดชอบก่อสร้างตอน 37 ถือเป็นผู้เสียหายจะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ เรียกร้องค่าเสียหายตามกระบวนการต่อไป

จากการสอบถาม นายดากี้ แซวจันทึก อายุ 63 ปี คนงานก่อสร้างรายหนึ่ง กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ เวลาประมาณ 17.30 น. ซึ่งเป็นช่วงที่คนงานก่อสร้างเลิกงานกันหมดแล้ว ก็ได้มีระกระบะคันดังกล่าว วิ่งมาอย่างเร็ว พุ่งเข้าไปในบริเวณที่กำลังก่อสร้างยังไม่เสร็จ ซึ่งคาดว่าจะวิ่งมาเร็วมาก จนรถพุ่งไปบนโครงเหล็กที่ชี้เรียงไว้ ไถลไปไกลเป็นระยะทางประมาณ 40 เมตร เกือบถึงอีกฝั่งหนึ่ง

โชคดีที่รถไปติดอยู่บริเวณร่องปูน ไม่ตกลงไปด้านล่าง ทำให้คนขับได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก และโชคดีซ้ำสอง ถ้าขณะนั้นมีคนงานก่อสร้างทำงานอยู่ อาจจะถูกรถกระบะคันดังกล่าวพุ่งชนเสียชีวิตได้

นางสมบัติ รักจันทึก อายุ 59 ปี คนงานก่อสร้างอีกราย กล่าวว่า จุดนี้เกือบเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง ซึ่งเมื่อวานนี้ ก่อนที่รถกระบะจะพุ่งตกร่อง ก็มีรถเก๋ง 1 คัน วิ่งมาด้วยความเร็ว แต่เมื่อมาถึงจุดนี้เบรกรถไว้ทัน ขณะที่คนกำลังกำลังทำงานอยู่จุดนี้พอดี ต่อมาช่วงเย็นเมื่อคนงานเลิกงานกลับบ้านแล้ว จึงมีรถกระบะวิ่งมาตกร่องดังภาพที่เห็น

ซึ่งวันนี้ทางบริษัทผู้รับเหมา ก็ได้นำแท่งปูนแบริเออ 4 แท่ง มาวางขวางไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก เพราะจุดนี้จะก่อสร้างเสร็จต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 3 เดือน

ที่โรงพยาบาลสีคิ้ว นายชาญวุฒิ ธรีรุราคม อายุ 60 ปี อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา พักรักษาตัวอยู่ที่อาคารสงฆ์และผู้ป่วยชาย โดยยังคงรักษาอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ และแผลถลอกตามลำตัว ยังไม่สามารถให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้

นอกจากนี้ญาติๆ ยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ โดยบอกแต่เพียงว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ เพิ่งขับรถมาจากบ้านเพื่อน ที่อยู่บริเวณหมู่บ้านกุดเต่างับ หมู่ที่ 3 ต.กุดน้อย อ.สีคิ้ว ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2.5 กิโลเมตร

โดยได้ขับรถมาบริเวณทางลาดขึ้นถนนมอเตอร์เวย์แถวบ้านกุดเต่างับ ขับมุ่งหน้าไปตามทางเพื่อไปบ้านใน อ.สูงเนิน แต่ด้วยความไม่ชำนาญทาง นึกว่าถนนสร้างเสร็จแล้ว จึงวิ่งมาถึงจุดดังกล่าวจนเกิดอุบัติเหตุในที่สุด ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างประสานกับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์จุดดังกล่าว เพื่อที่จะให้มาเจรจากันในเช้าวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค.)

ญาติผู้บาดเจ็บต้องการเรียกร้องค่าเสียหาย เนื่องจากรถคันที่เกิดเหตุ ไม่ได้มีประกันภัย และต้องการให้ผู้รับเหมา ออกมารับผิดชอบว่าเหตุใดจึงไม่มีป้ายแจ้งเตือนว่ามีการก่อสร้างอยู่ และไม่มีแท่งแบริเออวางกั้นไว้ ส่วนรถกระบะที่ติดค้างอยู่ ขณะนี้กำลังติดต่อรถเครนเพื่อให้มายกลงใน 2-3 วันนี้

ด้าน ร.ต.อ วิศาล ศาลาแดง พนักงานเวรสอบสวนเจ้าของคดี สภ.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้สอบปากคำผู้ขับขี่รถกระบะคันดังกล่าว ซึ่งนอนพักรักษาตัวที่ รพ.สีคิ้ว กรณีผู้ขับขี่มีแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกายเกินกฎหมายกำหนด

ตนได้เก็บตัวอย่างเลือดและนำส่งตรวจทางวิทยาศาสตร์ต้องรอผลยืนยันอีกครั้ง ล่าสุดได้แจ้งข้อกล่าวหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้มีทรัพย์สินเสียหาย ส่วนข้อกล่าวหาอื่นๆ อยู่ระหว่างรอกรมทางหลวงและสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน