ล่าอีก 2 โจรปล้นร้านจำนำ เผยคนร้ายทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง อาศัยลักเล็กขโมยน้อยตั้งข้อสังเกต 2 คนร้ายใช้นามแฝง คาดยังหนีอยู่ในประเทศ ตามของกลางคืนแล้ว 2.3 ล้าน

กรณี 3 คนร้าย บุกปล้นร้านเครื่องประดับอัญมณีศิริชัย บนถนนเพชรเกษม ปากซอย 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ ก่อนที่คนร้ายจะใช้ด้ามปืนทุบนายศิริชัย อาศัยพาณิชย์ เจ้าของร้าน อายุ 60 ปี บาดเจ็บใบหูฉีก ได้ทรัพย์สินเป็นเครื่องเพชรประดับและเงินสด รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท หลบหนีไปเมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนตำรวจสามารถจับกุมนายนพอนันต์ ภูษิตไพโรจน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ฝากขังศาลอาญาธนบุรี ตามที่เสนอข่วไปนั้น

โจรปล้นร้านจำนำ / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 6 พ.ค. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. กล่าวว่า จากคำให้การของนายนพอนันต์ ระบุว่าตนเป็นผู้วางแผนปล้นดังกล่าว ร่วมกับสมาชิกกลุ่ม ซึ่งตนเคยทำงานขายในร้านทอง จึงพอจะทราบแหล่งซื้อขาย โดยเมื่อตำรวจจับกุมนายนพอนันต์ อ้างว่าของกลางทั้งหมดนำไปแบ่งเฉลี่ยกับผู้ร่วมก่อเหตุรายอื่นๆ และในส่วนของตนก็เก็บไว้ที่ตัวเอง แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งอยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบหาของกลางที่เหลือเพิ่มเติม ขณะนี้สามารถติดตามกลับมาได้เกินครึ่ง ประมาณ 63 รายการ คิดเป็นเงิน 2.3 ล้านบาท

พล.ต.ต.นิตินันท์ กล่าวต่อว่า นายนพอนันต์ยังให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับคนร้ายอีก 2 ราย ทราบว่าเป็นคนรู้จักแถวบ้านของตนเอง และทั้งหมดทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง อาศัยการลักเล็กขโมยน้อย ขณะที่ก่อนหน้านี้นายนพอนันต์ เคยเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดที่จ.ชัยภูมิ และเปลี่ยนชื่อที่อำเภอ

ก่อนจะนำโทรศัพท์มือถือไปจำนำด้วยอีกชื่อบ่อยๆ ทางตำรวจยังตั้งข้อสังเกตว่ามีเพียงนายนพอนันต์ เท่านั้นที่มีบัตรประชาชนยืนยันตัวบุคคล ส่วนคนร้ายทั้ง 2 คนจะใช้นามแฝง โดยในแนวทางการสืบสวนเชื่อว่า คนร้ายยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน