แม่ยาย หนุ่มฆ่าตัว เครียดจัด ต้องเข็นรถเร่ขายจอบ-เสียม หาเงินผ่อนค่างวดรถกระบะแทนลูกเขย จนล้มป่วยข้อเข่าอักเสบ ต้องเลิกขาย วอนตำรวจเร่งตามรถคืน
จากกรณี นายไพวัลย์ แซ่ลี้ อายุ 42 ปี ชาว ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เสียชีวิตภายในห้องพักแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ สภาพศพคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน และยังพบจดหมายลาตาย 2 ฉบับ โดยฉบับแรกมีข้อความพาดพิง พ.ต.ท.ประทวน แมลงทับ สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย ว่าเรียกเงิน 5,000 บาท ในการดำเนินคดีติดตามรถกระบะ ยี่ห้อมาสด้า สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 6723 ร้อยเอ็ด ที่นำไปจำนำอีกฉบับมีข้อความถึง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่คดีไม่ความคืบหน้า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
หนุ่มฆ่าตัว / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับ นางสนอง เดชะ อายุ 54 ปี แม่ยายของนายไพวัลย์ และน.ส.ปณิดา เดชะ อายุ 29 ปี ภรรยาของผู้ตาย ที่นำลูกชายและลูกสาว 2 คน กลับมาเข้าโรงเรียนที่ต.ป่าสังข์ อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด
นางสนอง กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบข่าวจากคนโทรมาบอกและเปิดเผยว่าผู้ตายคือ นายไพวัลย์ แซ่ลี้ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นลูกเขย มีกิจการขายโทรศัพท์มือถือออนไลน์กับลูกสาว และมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นผู้ชาย คนรองเป็นผู้หญิง และเมื่อ 4 ปีก่อนกลับมาบ้านเพื่อทำเรื่องซื้อรถที่จ.ร้อยเอ็ด นำรถไปใช้ส่งของที่กทม. แต่ซื้อไม่ได้ เนื่องจากภูมิลำเนาไม่ได้ย้ายมาที่จ.ร้อยเอ็ด
ตนจึงใช้ชื่อตนเองเช่าซื้อรถกระบะ ยี่ห้อมาสด้า บีที 50 โปร สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กต6723 ร้อยเอ็ด ด้วยการทำไฟแนนซ์กับธนาคารแห่งหนึ่ง แบบผ่อนชำระงวด 84 งวด (7 ปี) งวดละ 10,423 บาท ราคารวม 1,025,532 บาท แล้วนำรถไปใช้ที่กรุงเทพฯ ซึ่งก็ไม่มีปัญหา โดยลูกเขยและลูกสาวก็สามารถหาเงินหมุนเวียนส่งงวดรถได้ตลอดเป็นเวลาเกือบ 4 ปี
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 16 ม.ค. ลูกเขยและลูกสาวแจ้งว่าจะนำรถคันดังกล่าวไปจำนำชั่วคราว เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อนำเงินไปซื้อสินค้า และขยายกิจการจำหน่ายโทรศัพท์ออนไลน์ แล้วจะรีบไถ่รถคืน โดยประสานกับคนกลาง ที่รู้จักกับผู้รับจำนำรถ จนนำรถไปจำนำกับนายทุนคนหนึ่ง ซึ่งรับจำนำรถแถวลาดพร้าว ได้เงินมา 140,000 บาท แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นลูกเขยถูกหวย ได้เงินมาจำนวนเกือบ 200,000 บาท และเมื่อวันที่ 28 ม.ค.61 ติดต่อกับคนกลาง กับผู้รับจำนำรถว่า จะขอไถ่รถคืน แต่คนกลางบอกว่าติดต่อนายทุนไม่ได้ และผัดผ่อนไปเรื่อยๆ อ้างว่าติดต่อไม่ได้
จนวันที่ 3 ก.พ.61 ก็ยังไม่สามารถติดต่อรับรถคืนได้ และระยะหลังๆ คนกลางก็ปฎิเสธความรับผิดชอบ อ้างว่าแค่แนะนำให้ ไม่รู้จักกับคนรับจำนำรถมาก่อน ลูกเขยเห็นท่าไม่ดี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ประทวน แมลงทับ สารวัตรสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อติดตามหารถยนต์คืน โดยแจ้งว่าพนักงานสอบสวนที่รับแจ้งความ ขอค่าดำเนินการใติดตามรถ จำนวน 5,000 บาท ลูกเขยก็จ่ายเงินให้ไป แต่ปรากฏว่าไม่ได้ดำเนินการใดๆ ให้ จนเป็นเหตุให้ลูกเขยเครียดหนัก
นางสนอง กล่าวต่อว่า จนเมื่อ 7 เดือนก่อน ลูกเขยก็พาเมียและลูกกลับมาฝากไว้ที่บ้าน เพื่อจะได้ออกติดตามรถ และให้ลูก 2 คน เข้าโรงเรียนในหมู่บ้าน โดยสั่งว่าให้ช่วยดูแลทุกคนให้ดี แล้วก็กลับไป จากนั้นโทรมาครั้งสุดท้าย เปรยในลักษณะย้ำว่าเครียด เพราะตามรถไม่เจอ ไม่ต้องห่วง ขอให้ดูแลทุกคนให้ด้วย พูดลักษณะคล้ายจะสิ้นหวัง อาจตัดสินใจฆ่าตัวตาย ซึ่งตนคิดว่าพูดเล่น ก็ไม่ได้สนใจ จากนั้นลูกเขยก็เงียบไป จนกระทั่งรู้ข่าวว่าฆ่าตัวตาย ซึ่งตนก็เสียใจมาก และลูกสาวเองก็ช็อก ทำใจไม่ได้ ซ่อนตัวอยู่แต่ในบ้านกับลูกๆ ไม่ยอมพบกับใคร ซึ่งตนเป็นห่วงมาก
“หลังจากที่ทราบว่าลูกเขยแจ้งความ ดิฉันก็พะวง เพราะเป็นชื่อของดิฉันที่ใช้ซื้อรถ โทรหาพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เจ้าของคดีตลอด ซึ่งแรกๆ ก็รับสายว่ากำลังตามให้ และเมื่อโทรบ่อยๆ เข้าก็ไม่ค่อยยอมรับ และหากรับก็อ้างต่างๆ นานา ว่าไม่ว่างบ้าง ไม่สะดวกคุย และบางทีก็อ้างว่ารถอยู่บ้าง จนกระทั่งพูดแบบไม่พอใจว่า แล้วจะให้ตำรวจทำอย่างไร ซึ่งดิฉันก็งง เพราะเงินก็เรียกไปเป็นค่าดำเนินการ 5,000 บาท เพื่อติดตามรถ แต่กลับไม่ช่วย และพูดแบบนี้ จนทำให้ลูกเขย ฆ่าตัวตาย เขียนจดหมายประจานแบบนี้ แล้วก็ไม่ทราบว่าใครจะรับผิดชอบ ใครจะช่วยครอบครัวได้ เพราะตอนนี้มีความทุกข์มาก” นางสนอง กล่าว
นางสนอง กล่าวอีกว่า พอมีปัญหาลูกเขยออกตามหารถ ขาดสมาธิและกำลังใจที่จะขายของ ทำให้ไม่มีรายได้ ค่างวดรถเลยกลางเป็นภาระ แถมรถก็โดนเชิด ตนต้องหาเงินจ่ายงวดรถด้วยการไปกู้เงินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. มาจ่ายงวดรถเดือนละ 10,423 บาท ด้วยการเข็นรถเข็นไปเร่ขายจอบขายเสียม หาเงินจ่ายค่างวดรถ จนป่วยเป็นข้อเข่าอักเสบ ต้องเลิกขาย
ขณะนี้ต้องกู้เงินธ.ก.ส.มาจ่ายค่างวดรถอย่างเดียว ซึ่งต้องจ่ายอีก 36 งวด ยังไงก็ต้องดิ้นรนหาเงินจ่ายให้หมด เพราะไม่อยากโดนฟ้อง และสิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือ อยากให้ตำรวจช่วยติดตามรถกลับมาให้ อย่างน้อยก็จะได้มีกำลังใจหรือใช้รถเพื่อไปขายจอบ-เสียม พอให้มีรายได้ผ่อนค่างวดรถ และใช้หนี้ธ.ก.ส ต่อไป
สำหรับศพของลูกเขยนั้น นางสนอง กล่าวว่า ทางญาติที่หาดใหญ่แจ้งว่า มารอรับศพเพื่อจะนำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่หาดใหญ่บ้านเกิดต่อไปแล้ว
