บุกร้องกองปราบ เงินฌาปนกิจสงเคราะห์หาย 16 ล้าน สมาชิกนับพันเดือดร้อน

บุกร้องกองปราบ / เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ และประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม

พาน.ส.กาญจนะพัฒน์ มรกต อายุ 54 ปี เกษตรกรชาว จ.บุรีรัมย์ พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งหนึ่งในจ.บุรีรัมย์ จำนวนกว่า 10 คน

เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.เอกรัตน์ ขวัญฤทธิ์ รอง สว.กก.3 บก.ป. เพื่อร้องขอให้ช่วยตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกลุ่ม ที่ไม่โปร่งใสจากกรณีเงินสะสมสมาชิกจำนวน 16 ล้านบาทสูญหายไป ทำให้สมาชิกกว่า 1 พันคนได้รับความเดือดร้อน โดยนำเอกสารหลักฐานมายื่นให้กับพนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา

น.ส.กาญจนะพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ดังกล่าว ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2548 ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวนกว่า 1 พันคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านและผู้สูงอายุในพื้นที่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ตนและชาวบ้านเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี อีกทั้งยังหวังว่าหากตนเสียชีวิตไปอย่างน้อยบุตรหลานหรือคนในครอบครัวจะได้รับเงินจำนวน 4 หมื่นบาท

ที่ผ่านมาตนและสมาชิกรายอื่นๆ จ่ายเงินค่าสมาชิกให้กับทางกลุ่มอย่างต่อเนื่องทุกเดือนตามเงื่อนไขที่มีการตกลงกันไว้ ในข้อแม้ที่ว่าหากมีสมาชิกในกลุ่มเสียชีวิต สมาชิกคนอื่นๆที่ยังมีชีวิตอยู่จะต้องจ่ายเงินให้กับทางกลุ่ม เพื่อนำไปใช้เป็นทุนช่วยเหลือมอบให้กับครอบครัวผู้เสียหายชีวิต ศพละ 50 บาท บางเดือนตนต้องจ่ายเงินค่าดังกล่าวให้กับทางกลุ่ม เป็นจำนวนเงินมากถึง 3-4 พันบาท หากเดือนนั้นมีสมาชิกในกลุ่มเสียชีวิตจำนวนหลายราย

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาตนเองและสมาชิกคนอื่นๆ ไม่เคยทราบรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีรายรับ-รายจ่ายของทางกลุ่มเลย ว่ามีการดำเนินการอย่างไรบ้าง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งเมื่อช่วงปี 2560 เริ่มมีสมาชิกบางรายไม่ได้รับเงินค่าช่วยเหลือจากทางกลุ่มตามที่ตกลงกันไว้ อ้างว่ายอดเงินกองทุนของกลุ่มมีไม่เพียงพอที่จ่ายให้กับสมาชิกที่เหลือ

ตนและบรรดาสมาชิกรายอื่นๆจึงเกิดความสงสัย เพราะหากนับเงินที่เรียกเก็บจากสมาชิกตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนกลุ่มดังกล่าวน่าจะมียอดเงินรวมไม่ต่ำกว่า 16 ล้านบาท แต่เมื่อสอบถามทางคณะกรรมการกลับบอกว่าเงินกองทุนหมด ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน กระทั่งเมื่อไปร้องเรียนหน่วยงานรัฐ ก็ไม่มีหน่วยงานไหนให้การช่วยเหลือหรือตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่างชัด และปล่อยเวลาล่วงเลยมานานเกือบปี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ทางกรรมการกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ ประกาศยุบกลุ่มปล่อยลอยแพสมาชิก โดยแจ้งว่ามียอดเงินกองทุนเหลืออยู่ 6 หมื่นบาทให้นำไปแบ่งกันเอง ตนและบรรดาสมาชิกเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะพวกตนส่งเงินตามเงื่อนไขให้กับกลุ่มมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี แต่กลับไม่ได้รับเงินชดเชยแต่อย่างใด

อีกทั้งการตรวจสอบกลุ่มดังกล่าวก็ไม่โปร่งใสและเชื่อว่ามีผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่รัฐและข้าราชการท้องถิ่นระดับสูงหนุนหลัง เพราะคณะกรรมการกลุ่มส่วนใหญ่เป็นข้าราชการท้องถิ่น จึงได้รวมตัวมาร้องกองปราบในวันนี้เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆของคณะกรรมการกลุ่ม รวมถึงไขข้อกระจ่างเกี่ยวกับเงินกองทุนจำนวน 16 ล้านบาทที่หายไปด้วย

นายรณณรงค์ กล่าวว่า สำหรับกลุ่มดังกล่าว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่ได้มีการจดทะเบียนหรือขออนุญาตจัดตั้ง ทั้งในรูปแบบสหกรณ์หรือสมาคม ซึ่งในส่วนนี้ก็คงต้องดูว่าเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.สหกรณ์ฯ รวมไปถึงความผิดฐานยักยอก หรือไม่

กรณีนี้ไม่อยากให้ปล่อยผ่านเพราะผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านผู้สูงอายุ เงินที่พวกเค้านำมาจ่ายให้กับทางกลุ่มก็เป็นเงินเบี้ยชราที่ได้รับจากภาครัฐ เพื่อหวังว่าจะมีเงินให้ลูกหลานได้ใช้หลังจากตนเองเสียชีวิต

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อนำไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานที่นำมามอบให้ ก่อนรวบรวมส่งต่อให้กับทางผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งดำเนินการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน