แจ้งจับนักข่าว อ้างชื่อผอ.ป.ป.ช.ศรีสะเกษ เรียกเงินปลัดอบต. ล้มสอบทุจริต

แจ้งจับนักข่าว / เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ สถานีตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายชาญชัย พลศรี ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ของ ป.ป.ช.ประจำจังหวัด

เข้าพบพ.ต.อ.ศุภชัย ศักรินพานิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ และพ.ต.อ.เสรี ภูษาชีวะ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับ นายป.(นามสมมุติ)ผู้สื่อข่าวคนหนึ่ง

เนื่องจากมีพฤติกรรมแอบอ้างชื่อของตน ไปเรียกรับเงินจากผู้บริหารอบต.แห่งหนึ่งในเขต อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ โดยอ้างว่า จะสามารถช่วยเหลือให้หลุดพ้นจากการถูกตั้งกรรมการสอบสวนทุจริต กรณีเบิกจ่ายเงินตามโครงการปรับปรุงถนนในเขตพื้นที่ จำนวน 27 โครงการ

นายชาญชัยกล่าวว่า สืบเนื่องจาก สำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหาว่าปลัดอบต.แห่งหนึ่งกับพวกรวม 2 คน ถูกร้องเรียนว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เบิกจ่ายเงินตามโครงการปรับปรุงถนนในเขตพื้นที่ จำนวน 27 โครงการ โดยมิชอบตามระเบียบกฏหมาย

ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ ได้แสวงหาข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่ากรณีมีมูลจึงเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อทำการไต่สวน โดยมีตนเป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการไต่สวนถึงขั้นแจ้งข้อกล่าวหา

ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาคนที่ 2 ได้พบกับตน เมื่อวันที่ 14 พ.ค. และแจ้งว่ามีนายป. ไปเรียกรับเงินจากผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คน ในชั้นแสวงหาข้อเท็จจริงคนละ 600,000 บาท อ้างว่า จะนำเงินมาให้ตนเพื่อให้สั่งยุติเรื่อง ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คน หลงเชื่อและจ่ายเงินเป็นเงินสดไปคนละ 600,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,200,000 บาท ให้แก่ นายป.ไปแล้ว

ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต่อว่า ต่อมาคณะอนุกรรมการไต่สวน ได้แจ้งคำสั่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ 1756/2560 ลว. 29 ธ.ค. 60 ให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 รายทราบ โดยให้ผู้ถูกกล่าวหาสามารถทำคำชี้แจงเสนอขึ้นมาได้ ปรากฎว่านายป.ถือโอกาสเรียกเงินจากบุคคลทั้ง 2 อีกคนละ 350,000 บาท รวมเป็นเงิน 700,000 บาท

ซึ่งทางปลัดอบต.ดังกล่าว ได้จ่ายเงินให้กับ นายป.เพิ่มอีกจำนวน 350,000 บาท แต่ว่าผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ยังไม่ได้จ่ายเงินให้ โดยนาย ป. ได้จัดทำคำชี้แจงให้กับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย จำนวน 2 แผ่น โดยในแผ่นที่ 1 เป็นการคัดลอกบันทึกการรับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด จะมีคำชี้แจงอยู่ในแผ่นที่ 2 ประมาณ 10 บรรทัด

ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย เห็นว่าคำชี้แจงข้อกล่าวหาไม่ตรงกับประเด็นข้อกล่าวหา จึงยังไม่ยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหา แต่ว่าได้มายื่นเรื่องขอขยายระยะเวลาการชี้แจงข้อกล่าวหา และไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ให้นายป.ทราบแต่อย่างใด

นายชาญชัย กล่าวต่อด้วยว่า ความมาแตกตอนที่ นางบ. ภรรยาของนายป.ซึ่งทำงานเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาปลัดอบต.รายนี้ ได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ทราบว่า “คุณ ป.ฝากมาบอกว่า ผอ.ชาญชัย พอใจในคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นอย่างมาก” ทำให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ทราบว่าถูกหลอก เพราะยังไม่ได้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแต่อย่างใด จึงมาแจ้งให้ตนทราบ

และยังแจ้งอีกว่า นายป.มักจะไปใส่ความตนอยู่เสมอว่า นายชาญชัย ผอ.ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ คนนี้ มีนิสัยชอบเรียกรับเงิน ไม่ว่าจะเป็นคดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม โดยมีตัวเองเป็นผู้ติดต่อและรับเงินไปให้ ซึ่งตนไม่เคยรู้จักคุ้นเคยกับนายป.นักข่าวแต่อย่างใด

“ผมรับราชการมานาน 40 ปี ประวัติการรับราชการไม่เคยด่างพร้อย ไม่เคยต้องโทษอาญาหรือวินัยแต่อย่างใด ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผอ.ป.ป.ช.ประจำ จ.ศรีสะเกษ ระดับอำนวยการระดับสูง การที่เขาแอบอ้างชื่อผมไปเรียกรับเงินสินบน ทำให้ผมเสียหายเป็นอย่างมาก ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล และกระทบกับชื่อเสียงของสำนักงาน ป.ป.ช.โดยตรง ผมจึงมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับนายป.จนถึงที่สุด” นายชาญชัยกล่าว

ทางด้าน พ.ต.อ.เสรี ภูษาชีวะ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งความไว้แล้ว เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาว่า เรียกสินบนให้เจ้าพนักงาน มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ซึ่งได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จากนั้นจะได้ออกหมายเรียก นายป. มารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งตนจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายตามกฎหมายอย่างเต็มที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน