เมื่อวันที่ 15 มี.ค.นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีผู้ดูแลเฟซบุ๊กชื่อดัง “แหม่มโพธิ์ดำ” เปิดเผยว่ามีการตั้งกลุ่มปิดในเฟซบุ๊กโดยแสดงภาพการซื้อขายอาวุธที่ใช้ในการล่าสัตว์ป่า และสมาชิกนำภาพสัตว์ป่าที่ถูกล่ามาอวดกันนั้น กรมอุทยานฯ ตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้ดูแลเฟซบุ๊กแหม่มโพธิ์ดำนำภาพผลงานการล่าสัตว์ป่าจากเพจอื่นมาโพสต์เพื่อตีแผ่ให้สังคมได้รับทราบว่า ปัจจุบันมีผู้ไปล่าสัตว์ป่าแล้วนำภาพสัตว์ป่าที่ล่าได้มาอวดกัน แต่ไม่มีการซื้อขายอาวุธปืนที่ใช้ในการล่าสัตว์ป่าแต่อย่างใด

โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.ชื่อเฟซบุ๊ก นายไพรัช บุญมาคำ โพสต์รูปซากลิงแสม จำนวน 1 ตัว 2.ชื่อเฟซบุ๊กช่างกุญแจนครปฐม ติ๊กกุญแจ ไทยคีย์ เซอร์วิส โพสต์รูปซากเม่นใหญ่แผงคอยาว จำนวน 2 ตัว 3.ชื่อเฟซบุ๊ก เอี่ยว แสนพันธ์ ชีวิตติดปีก โพสต์รูปซากกระรอกบินเล็กแก้มขาว จำนวน 2 ตัว และรูปลูกกระรอกบิน จำนวน 2 ตัว 4.ชื่อเฟซบุ๊ก ชวลิต ศรีธิ โพสต์รูปซากแมวดาว จำนวน 1 ตัว

5.ชื่อเฟซบุ๊ก ตรัยภาค สกุลมหาสิงห์ โพสต์รูปซาก นกตั้งล้อ จำนวน 1 ตัว และชะนีธรรมดา จำนวน 1 ตัว พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ในการล่า 6.ชื่อเฟซบุ๊ก นิด เกียรติศักดิ์ โพสต์รูปคนสะพายอาวุธปืนถือซากเหยี่ยวรุ้ง จำนวน 1 ตัว 7.ชื่อเฟซบุ๊ก อาร์ท รถเกี่ยว โพสต์รูปซากกระต่ายป่า จำนวน 4 ตัว 8. ชื่อเฟซบุ๊กท่านน้อย ท่านน้อย โพสต์รูปคนสะพายอาวุธปืนถือซากเหยี่ยวดำ จำนวน 1 ตัว และเหยี่ยวขาว จำนวน 1 ตัว

นายธัญญา กล่าวว่า ทั้งนี้การกระทำหรือร่วมกันกระทำดังกล่าวข้างต้น กรมอุทยานฯ เห็นว่าเข้าข่ายเป็นความผิดตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 16 ข้อหาล่าหรือพยายามล่า ซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 19 ข้อหามีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต บทกำหนดโทษ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 16 มาตรา 19 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน สี่ปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงได้แจ้งความกล่าวโทษร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ตามรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีลำดับที่ 2 วันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา และจะร่วมกับพนักงานสืบสวนในการติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป

โดยกรมอุทยานฯ ได้กำหนดมาตรการในการตรวจสอบ ติดตาม สืบสวน อาชญากรรมด้านสัตว์ป่า ที่อยู่ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท รวมถึงการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ รณรงค์และสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อหยุดยั้งขบวนการล่าและค้าสัตว์ป่าให้หมดสิ้นไป ทั้งนี้ ผู้ที่พบเห็นการกระทำผิดสามารถแจ้งได้ที่ โทรสายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทาง www.dnp.go.th

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน