หนุ่ม อ้างเป็นปลัด หอบพวงมาลัยสดขอขมาหน่วยกู้ภัยโคราช เผยเพิ่งหย่าเมีย-เครียดปัญหาชีวิต เลยระเบิดอารมณ์ใส่กู้ภัย ยันไม่ได้อ้างตัวเป็นปลัด วอนสังคมให้อภัย

กรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. กู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถาน ได้รับแจ้งเหตุว่ามีรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกัน ที่แยกร่วมเริงไชย ถ.ร่วมเริงไชย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนนำผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่งรพ.มหาราชนครราชสีมา โดยช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงเลิกงาน ทำให้รถติดขัด ก่อนมีชายแต่งตัวคล้ายข้าราชการ อ้างว่าเป็นปลัด ลงจากรถแท็กซี่ มายืนชี้หน้าด่าอาสาสมัครกู้ภัย ก่อนที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ออกมายอมรับว่า ชายคนดังกล่าวเป็นบุคลากรสังกัดอบจ.นครราชสีมาจริง แต่ไม่ใช่ปลัด สั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัย ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

อ้างเป็นปลัด / เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 พ.ค. ที่มูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊งสว่างเมตตาธรรมสถาน นครราชสีมา นางบุญสิตา ขันธะวินะหุ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา นำนายนันทภพ ฉายดิลก หรืออู๊ด อายุ 49 ปี ตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไป ชำนาญการสังกัดสำนักปลัด อบจ.นครราชสีมา เดินทางมาขอขมากับผู้บริหารมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊ง สว่างเมตตาธรรมสถาน นครราชสีมา

ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นายนันทภพ อ้างตัวเป็นปลัด ไปยืนด่าทอเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ขณะกำลังช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกัน ที่บริเวณถนนร่วมเริงไชย อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีการแชร์คลิป ในโลกออนไลน์จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนันทภพ หรืออู๊ด นำพวงมาลัยสด มานั่งคุกเข่าขอขมาต่อหน้านายอนันต์ บูรณะบัญญัติ ประธานมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊งฯ พร้อมกับกล่าวยอมรับผิด และขอโทษต่อสังคมในสิ่งที่ตนเองทำไป หลังจากนั้นก็เข้าไปสวมกอดกับ นายพุฑฒินันท์ จันทร์รัตน์วิลาส เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่ถูกด่า โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น

นายนันทภพ เปิดเผยว่า ตนยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากหวังดีอยากจะเข้าไปช่วยไม่ให้จราจรติดขัด แต่ด้วยบุคลิกตัวเองที่เป็นคนชอบพูดเสียงดัง จึงทำให้เหมือนกำลังใส่อารมณ์ด่าทอเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย วันเกิดเหตุนั้นตนไม่ได้ดื่มสุราหรือเมาสุราแต่อย่างใด เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบดื่มสุราอยู่แล้ว เพียงแต่ตนเองเครียดกับปัญหาชีวิตหลายเรื่อง เพิ่งกลับมาจากเซ็นเอกสารเลิกรากับภรรยาที่สภ.โพธิ์กลาง








Advertisement

ประกอบกับลูกชายก็ลาออกจากราชการตำรวจ จึงทำให้เปิดความเครียดสะสมมานานกว่า 3 เดือนแล้ว ต้องไปรับยาคลายเครียดจากแพทย์ที่โรงพยาบาลมากินทุกเดือน จึงเป็นเหตุให้มีความเครียดสะสมและระบายออกตามภาพที่เห็น

“ยืนยันว่าไม่ได้พูดอ้างตัวว่าเป็นปลัดอบจ.แต่อย่างใด อาจจะเป็นการเข้าใจผิดกันเล็กน้อย การเดินทางมาในวันนี้จึงต้องการที่จะมาขอขมาลาโทษ ต่อผู้บริหารมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊งฯ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งผมพร้อมที่จะสนับสนุนช่วยเหลือหน่วยงานกู้ภัยเต็มที่ และถ้ามีโอกาสก็จะขอเข้ามาสมัครเป็นอาสากู้ภัยของที่นี่ด้วยอีกคน ขอโทษสังคมด้วย ยืนยันว่าหลังจากนี้ไปจะพยายามควบคุมสติอารมณ์ให้มาก จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีกแน่นอน” นายนันทภพ กล่าว

ด้านนายอนันต์ บูรณบัญญัติ ประธานมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊งสว่างเมตตาธรรมสถาน กล่าวว่า มูลนิธิฯไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับเรื่องนี้ อยากให้เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาต่อคนทั่วไปที่เห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังปฏิบัติงานอยู่ เพราะเจ้าหน้าที่เหล่านี้เป็นอาสาสมัคร ไม่ได้มีเงินเดือนตอบแทนแต่อย่างใด มาทำงานด้วยจิตอาสาเพื่อสาธารณะประโยชน์จริงๆ

ซึ่งอบจ.นครราชสีมา ก็ถือว่าเป็นองค์กรที่มีอุปการคุณต่อมูลนิธิฯ ช่วยเหลือสนับสนุนงบประมาณใช้ในการดำเนินการหลายด้าน มูลนิธิฯ ก็อาศัยการช่วยเหลือนี้ทำประโยชน์ให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ ดังนั้นอะไรที่ให้อภัยกันได้ก็ให้แล้วๆ ไป ขอให้เรื่องนี้จบกันด้วยดี เพื่อหันหน้าเข้าหากัน ร่วมมือกันบำเพ็ญประโยชน์ให้ จ.นครราชสีมา อย่างเต็มที่ต่อไปจะดีกว่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน