ภรรยาช็อก สามีถูกยิงร่างพรุน 10 รู ดับปริศนาคาเปล เผยไม่เคยมีเรื่องกับใคร

วันที่ 30 พ.ค. ร.ต.อ.ธนากร เครืออ้น รอง.สว.(สอบสวน) สภ.ประจันตคาม รับแจ้ง จากนางบุญ ใจแข็ง อายุ 48 ปี ว่าพี่ชายตัวเองถูกยิงเสียชีวิต บริเวณหมู่บ้านไชยคี ม.11 ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.ภจ.ว.ปราจีนบุรี และชุดสืบสวนกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลประจันตคาม และหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านของนายสนอง สินวงค์ อายุ 66 ปี ที่เปลยวนพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายสูงอายุ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ใบหน้า และตามตัวหลายรู นอนหงายหน้าเสียชีวิตอยู่บนเปล ทราบชื่อคือนายลือชัย ใจแข็ง อายุ 56 ปี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่ใบหน้าด้านซ้าย 5 รู แขนซ้าย 3 รู รวมรอยกระสุนทั้งหมดมากกว่า 10 รู

นายชรินทร์ สินวงค์ อายุ 52 ปี กล่าวว่า ผู้ตายพร้อมกับพวกอีก 3 คน นั่งจับกลุ่มดื่มสุรากันก่อนหน้านี้ โดยทั้งหมดได้นั่งดื่มสุรากันตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว จนกระทั่งเวลา 09.00 น. ได้ยินเสียงคล้ายปืน ดังขึ้น 1 นัด แต่ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นการจุดประทัดไล่นก จากนั้นก็ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ ของกลุ่มคนกินเหล้า ขี่ออกจากบ้านหลังดังกล่าวไม่นาน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายชรินทร์ กล่าวต่อว่า นางเงิน ได้มาแจ้งตนว่า มีคนตายอยู่ที่เปล จึงได้แจ้งไปทางผู้ใหญ่บ้าน พร้อมกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ให้ทราบ พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เนื่องจาก นางเงินมาแจ้งกับตนว่าผู้ตายกินเหล้าจนเลือดออกปากออกจมูกตายอยู่ในเปล แต่ตนมาดูจึงรู้ว่าผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืน

ด้านนางสมชิด ใจแข็ง อายุ 53 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้ตายออกจากบ้าน มาได้ประมาณ 3-4 วัน โดยบอกว่าจะออกไปขึ้นเขาหาของป่า จากนั้นก็หายเงียบไป ตนและลูกๆเป็นห่วง จนมาทราบข่าวว่า ไปนั่งกินเหล้าอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ช่วงเย็นหลังจากลูกกลับมาจากโรงเรียน จะพากันไปตามผู้ตายกลับบ้าน แต่ต้องมารับข่าวร้ายก่อน โดยปกติผู้ตาย ไม่เคยมีเรื่องกับใคร แต่เป็นคนชอบดื่มสุราเป็นประจำ ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เชิญผู้เกี่ยวข้องที่นั่งดื่มสุราด้วยกันกับผู้ตายมาสอบปากคำเพิ่มเติมแต่ทุกคนปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งหาตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน