สตม. แถลงจับ 4 คดี ทั้งแก๊งโรแมนซ์สแกม – ต้มตุ๋นคนไทย

สตม. / เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม.พร้อม พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 และ พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธโกศล ผกก.ตม.จ.สุราษฎร์ธานี

ร่วมแถงผลการจับกุมคดี สำคัญๆจำนวน4คดี โดยคดี แรก แถลงผลจับกุมชาวจีน 6 ราย ที่เช่าบ้านหรู ในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ที่มีพฤติการณ์มั่วสุมลักลอบทำงานผิดกฎหมาย โดยพล.ต.ท.สมพงษ์ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าสืบทราบว่าที่บ้านพักในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ย่านหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

มีบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีนเข้ามาลักษณะมั่วสุมโดยไม่ยอมออกไปไหนในช่วงกลางวัน จะออกเฉพาะในช่วงกลางคืนเท่านั้น กระทั่งเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงขอหมายค้นจากศาลแขวงพัทยา เข้าตรวจในบ้านดังกล่าวพบ โทรศัพท์มือถือ 24 เครื่อง,คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ พร้อมของกลางอื่นๆอีกหลายรายการ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดยจับกุมชาวจีนจำนวน 6 คน ซึ่งเดินทางเข้ามาในไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว และมาทำงานให้กับนายเฉิน(ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง) ที่ว่าจ้างให้ออกแบบแอปพลิเคชั่นtaobao และกดไลค์สินค้าหรือแสดงความคิดเห็น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และให้ชาวจีนสั่งซื้อสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ

ซึ่งการกระทำดังกล่าวในจีนนั้นมีความผิดฐานหลอกลวงผู้บริโภค เบื้องต้นดำเนินคดีฐาน “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้”

จับชาวรัสเซียถูกขึ้นบัญชีดำ

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวอีกว่า คดีที่2 ทาง เจ้าหน้าที่ ตม.จ.สุราษฎร์ธานีจับกุมนายเซอร์กิว มิเลนเทีย ผู้ต้องหาที่เคยถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับกุมในปี2559 และขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศ หลังลักลอบเปิดโรงแรมที่พักและสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต

แต่กลับลักลอบเข้ามาอีกครั้งเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2561 โดยเปลี่ยนชื่อเป็น นายเซอเกย์ มิเลนที สัญชาติโรมาเนีย เข้ามาพักอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยตำรวจได้ตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ถูกขึ้นบัญชีดำ จึงดำเนินการจับกุม เพิกถอนผลักดันออกนอกประเทศต่อไป

คดีที่3 จับกุมผู้ต้องหาแก๊งโรแมนซ์สแกมเมอร์ โดยทางเจ้าหน้าที่ ได้จับกุม นายพอลลีนุช เซเลสติน นามานี่ อายุ 33 ปี ชาวไนจีเรีย พร้อมของกลาง 1.โน๊ตบุ๊ก 2.แท็บเล็ต 3.บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากที่ นายพอลลีนุช หลอกลวงหญิงสาวไทย 2 คน ผ่านเฟซบุ๊ก โดยสร้างโปรไฟล์เป็นชาย หน้าตาดี จนทำให้ผู้เสียหายผู้หญิงหลงเชื่อ หลอกโอนเงินให้กว่า 400,000 บาท โดยสามารถจับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านกัลปพฤกษ์

และคดีที่4 จับกุมชาวเกาหลีใต้ เปิดบริษัทรับเหมาตกแต่งบ้านมีผู้เสียหาย 2 ราย มูลค่าความเสียหาย 23 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่จับกุมนายจุง อิม ชุน หรือแจ็ค อายุ 38 ปี และนางคิม ชูอิน
อายุ 50 ปี ชาวเกาหลีใต้ ที่อ้างตัวว่าเป็นบริษัทแจ็คเวิลด์จำกัด (รับเหมาก่อสร้าง) ที่หลอกลวงผู้เสียหาย 2 ราย ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านย่านสมุทรปราการ

โดยผู้เสียหายได้ว่าจ้างให้นายจุงและนางคิมให้มาตกแต่งบ้าน จนเวลาผ่านไป 2 ปีแล้ว การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ต่อมาตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบบ้านผู้เสียหาย พบนายจุงและนางคิม กำลังควบคุมงานก่อสร้างต่อเติม

จากการตรวจสอบไม่พบเอกสารหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงาน จึงได้คุมตัวมาดำเนินคดีพร้อมแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ และจากการตรวจสอบหนังสือรับรองบริษัทแจ็คเวิล์ดจำกัด พบว่ามีการจดทะเบียนนิติบุคคลเมื่อปี 2553

โดยมีน.ส.จองยูน จอง น้องสาวของนายจุง เป็นกรรมการบริษัท ก่อตั้งขึ้นเพื่อประกอบกิจการถ่ายภาพแบบสตูดิโอ ถ่ายภาพงานนอกสถานที่ทุกประเภท ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างหรือตกแต่งบ้านแต่อย่างใด โดยในปี2559 นายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียน เพราะเป็นบริษัทร้าง และเป็นช่วงเวลาก่อนที่ผู้เสียหายทั้ง 2 รายจะตกลงเจรจาให้มาก่อสร้างตกแต่งบ้าน แสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ต้องหาเป็นการหลอกลวงปกปิดข้อเท็จจริง

โดย น.ส.ธัญญธร ศรีสุโคตร หนึ่งในผู้เสียหาย ได้เปิดเผยว่า สามีของตนเองได้เห็นการโฆษณาผ่าน Facebook และได้นัดติดต่อมาคุยเรื่องการตกแต่งต่อเติมบ้าน ซึ่งตอนนั้นนายจุงและนางคิม ดูมีความน่าเชื่อถือจากการแต่งตัวและมีการนำล่ามมาแปลภาษาระหว่างการเจรจา จึงทำให้ตนและสามีหลงเชื่อ ทำสัญญาตกแต่งต่อเติมบ้าน ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2561

แต่เมื่อเวลากำหนดส่งบ้าน กลับก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ โดยผู้ต้องหาได้ผัดผ่อนประวิงเวลาเรื่อยมา และได้เบิกเงินค่าก่อสร้างไปทั้งหมดกว่า 10 ล้านบาท จึงคิดว่าอาจจะถูกหลอกจึงเข้าแจ้งความ ก่อนจะจับกุมตัวมาได้ดังกล่าว

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน