จนท.หนุ่มรพ.น้อยใจภรรยาต่อว่าเรื่องเป็นหนี้ไม่ยอมบอกปล่อยให้เจ้าหนี้มาทวงในไลน์ เกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน ก่อนจะขับรถเก๋งหนีออกจากบ้านไป 3 วัน สั่งเสียทางไลน์ให้เตรียมจัดงานศพ ญาติๆ ออกตามหาไม่เจอ ก่อนจะพบกลายเป็นศพผูกคอตายในรีสอร์ต

เวลา 09.30 น. วันที่ 16 มี.ค. ร.ต.อ.ธีรวิสิฏฐ์ จินจันดา รองสว.(สอบสวน) สภ.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งเพิ่งเปิดใหม่ในเขต อ.ปากคาด จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อารัก มะสาธานัง ผกก. พ.ต.ท.สันต์ติภาพ มีผลสาสะโม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ปกรณ์ ปัญญามงคล สว.สส.แพทย์เวร รพ.ปากคาด ที่ห้องพัก A6 รีสอร์ตดังกล่าว พบศพนายสำราญ อายุ 49 ปี อยู่หมู่ที่ 2 บ้านบุ่งคล้าทุ่ง ต.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ สภาพศพนอนหงายหันเท้าทั้ง 2 มาทางประตูทางเข้า ใช้เชือกไนล่อนสีขาวผูกคอตัวเองติดกับขอบประตูทางเข้า ในลักษณะทำเงื่อนปมพาดเอาไว้กับขอบบานประตูด้านบน แล้วผลักให้ประตูหนีบเอาไว้ โดยไม่ได้ล็อกกลอนประตู ส่วนปลายเชือกอีกด้านทำเป็นบ่วงคล้องคอแล้วยืนโน้มตัวไปข้างหน้าให้เชือกรัดคอตัวเองเพื่อให้ขาดอากาศหายใจ จนลิ้นจุกปากตาถลน สวมใส่ชุดดำ มีป้ายชื่อหุ้มพลาสติกสำหรับพนักงานประจำแขวนคอ โดยระบุชื่อ และตำแหน่งเจ้าพนักงานสถิติ โรงพยาบาลบุ่งคล้า เนื้อตัวแข็งทื่อ ไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายใดๆ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง

ด้าน พ.ต.อ.อารัก กล่าวว่า ก่อนรับแจ้ง เจ้าของรีสอร์ตจะเข้ามาสอบถามว่าจะเช่าพักค้างคืนต่อหรือจะเช็คเอาต์ แต่เมื่อโทรศัพท์เข้ามาในห้องเพื่อจะสอบถามไม่มีผู้รับ จึงมาเคาะประตูเรียก เมื่อไม่มีคำตอบจึงผลักประตูห้องเข้าไป ก็ต้องตกใจ เพราะทำให้ศพที่พิงประตูอยู่ล้มลงมาต่อหน้า พร้อมกับปมเชือกหลุดออกจากขอบประตูด้านบน และบนที่นอน เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานเป็นกระดาษโน้ตเขียนไว้ว่า เจ้าของรถทะเบียน 5 กพ 271 กรุงเทพมหานคร ชื่อนางลัดดาวรรณ ซี่งจอดอยู่ในช่องจอดรถ พร้อมกับมีหมายเลขโทรศัพท์เขียนบอกไว้ จึงโทรติดต่อไป ทราบว่าเป็นพี่สาวผู้ตายเอง และที่พื้นห้อง พบกล่องพัสดุไปรษณีย์แพ็คอย่างมิดชิดระบุชื่อผู้รับเป็นลูกสาวของผู้ตาย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนางลัดดาวรรณ พี่สาวที่เดินทางมารับศพทราบว่า ก่อนจะมาเป็นศพ ผู้ตายได้มีปากเสียกับภรรยาเรื่องมีเจ้าหนี้ทวงหนี้ทางไลน์ที่ยืมมาเป็นเงิน 3 หมื่นบาท โดยได้จ่ายเงินต้นไปแล้วเหลือเพียงดอกเบี้ยประมาณ 5 พันบาท ได้พยายามอธิบายแล้ว แต่ภรรยาไม่เข้าใจ จนเกิดการทะเลาะกัน และเกิดความน้อยใจ ในเช้าวันที่ 13 มี.ค. ได้ขับรถมาส่งหลานทำงานที่ตัวเมืองบึงกาฬ แล้วไม่กลับมาทำงานที่ รพ.บุ่งคล้า แต่มีไลน์มาแจ้งว่าให้เตรียมจัดงานศพได้เลย และบอกฝากลูกสาว ให้ช่วยเลี้ยงดูด้วย จากนั้นญาติๆ ก็ออกประกาศและติดตามหาไปหลายที่ คิดว่าผู้ตายเพียงประชดเท่านั้น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง สุดท้ายก็มาผูกคอเสียชีวิจจนได้ ญาติๆ ไม่ติดใจเอาความ จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน