หนุ่มใหญ่ ชวดประกัน คดียาบ้าซิมโทรศัพท์ เมียไม่ท้อ เดินหน้าขอความเป็นธรรม

คดียาบ้าซิมโทรศัพท์ / จากกรณีครอบครัวญาติและเพื่อนบ้าน กว่า 100 คน ของนายนิต พิจิตรอาจ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม

ว่านายนิต ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเป็นแพะในคดียาเสพติด ครอบครองยาบ้า 2,000 เม็ด และไอซ์ 24 กรัมโดยเจ้าหน้าที่ขยายผลจากคำให้การของผู้ต้องหายาบ้า ว่าสั่งซื้อยาจากเบอร์มือถือที่ลงทะเบียนเป็นชื่อของนายนิต จึงขอหมายจับจากศาลก่อนติดตามจับกุม

ซึ่งเจ้าตัวยืนยันปฏิเสธ อ้างว่าได้ขายมือถือให้พ่อค้าเร่ไปนานแล้วแต่ลือถอดซิมการ์ดออก โดยขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำจังหวัดมหาสารคาม ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

ความคืบหน้าวันที่ 4 มิ.ย. ที่ ศาลจังหวัดมหาสารคาม นางกาญจนา พิจิตอาจ ภรรยา พร้อมด้วยนายวันสว่าง ลือชา ทนายความ นายเชวงศักดิ์ พลลาภ ประธานสภาทนายความจังหวัดมหาสารคาม ทนายอาสาประจำจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยญาติจำนวน 2 คน ได้เดินทางมายื่นเรื่องเพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว นายนิต พิจิตอาจ ต่อศาลจังหวัดมหาสารคาม

นายวันสว่าง ทนายความเปิดเผยว่า หลังจากยื่นขอประกันตัวต่อศาลในช่วงเช้า ในเวลา 13.30 น. ศาลจังหวัดมหาสารคามได้เบิกตัวนายนิต จากเรือนจำจังหวัดมหาสารคาม และ ร.ต.อ.กัมปนาท พินิจ พนักงานสอบสวน สภ.บรบือ และพ.ต.อ.อัครชัย ยลโสภณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม หัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดใหม่ ขึ้นเบิกความต่อศาล

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พร้อมไตร่สวนประกอบการพิจารณาการให้ประกันตัว ศาลได้ถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายเรื่องการคัดค้านการประกันตัว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง 2 นาย ไม่ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม โดยศาลไตร่สวนถึงเวลา 16.30 น.

ในเวลาต่อมาศาลได้มีคำสั่งไม่ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากของกลางมีจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำนายนิตกลับไปที่เรือนจำเพื่อคุมตัวต่อไป

นายวันสว่างกล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีนี้ไม่ได้ตัดสิทธิ์ให้มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว โดยทีมกฎหมายจะยื่นคำสั่งอุทธรณ์ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้

ส่วนแนวทางการดำเนินการต่อไป จะรวบรวมหลักฐานของความเป็นธรรมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พร้อมกับยืนเอกสารร้องขอความเป็นธรรมจาก ตร.ภูธรภาค 4 เพื่อกำชับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำสำนวนรอบครอบกว่านี้

ตนมองว่า ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อขอหมายจับ ควรจะรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดให้แน่ชัดเสียก่อนว่านายนิต มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริง อาศัยเพียงหลักฐานเล็กน้อย เช่นโทรศัพท์ ก็ทราบว่านายมานิตเป็นผู้ต้องหายาเสพติด แล้วออกหมายจับ

ด้านนางกาญจนา ภรรยาเปิดเผยว่า ตอนนี้มีกำลังใจในการต่อสู้คดี ไม่ท้อแน่นอน เพราะตนเชื่อว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง ในเมื่อสามียังไม่พ้นผิด ตนก็จะสู้ต่อไปให้ถึงที่สุด

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน